ชื่อบทความนี้ อาจทำให้คอแชมเปญประหวั่นพรั่นพรึงไปสักหน่อย หรืออาจฟังดูเกินจริงไปบ้าง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า สำหรับผู้ผลิตแชมเปญในปัจจุบันแล้ว เส้นทางธุรกิจของพวกเขาไม่ได้ถูกโรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนคิด…

ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะติดโรคของผลองุ่น, เชื้อรา, อากาศเย็นจัดจนเป็นน้ำแข็งที่เกิดในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว และเรื่องของพายุลูกเห็บ ล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตในเขตแชมเปญ ปีนี้

จากรายงานในนิตยสาร Decanter เมื่อเร็วๆนี้ ปริมาณผลองุ่นที่เก็บได้จากทั่วแคว้นแชมเปญในปีนี้ มีปริมาณโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7,000 – 7,500 กิโลกรัมต่อพื้นที่ไร่องุ่นขนาด 1 เฮกตาร์ ซึ่งตรงกับที่เจ้าหน้าที่ในเขตแชมเปญกำหนดไว้ในเดือนกรกฎาคม ว่า จะมีปริมาณผลผลิตสูงสุดอยู่ที่ 10,800 กิโลกรัมต่อพื้นที่ไร่องุ่นขนาด 1 เฮกตาร์ โดยเกษตรกรผู้ปลูกองุ่นจำนวนหนึ่งยังได้ออกมากล่าวว่า พวกเขาได้สูญเสียผลผลิตไปแล้วสูงถึง 70% เลยทีเดียว

(Photo by Justin Sullivan/Getty Images)

ตามรายงานดังกล่าว ฤดูปลูกองุ่นในปีนี้ ถือว่ามีความซับซ้อนที่สุดนับตั้งแต่ปี 1956 เป็นต้นมา เดชะบุญที่โรงผลิตแชมเปญส่วนใหญ่ยังพอมีเงินเก็บสำรองอยู่บ้าง บางรายได้รับความช่วยเหลือจุนเจือจากคนในครอบครัว สหกรณ์ คู่ค้า หรือธนาคารต่างๆที่พวกเขาใช้บริการอยู่ ดังนั้น การปลูกองุ่นในฤดูกาลต่อไปจึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากของพวกเขา ซึ่งสำหรับผู้ผลิตบางรายแล้ว มันอาจเป็นฤดูกาลที่ตัดสินชะตาชีวิตของพวกเขากันเลยทีเดียว

คุณ Jean Marie Barillère ประธานสหภาพผู้ผลิตแชมเปญ หรือ The Union des Maisons de Champagne ได้กล่าวกับนิตยสาร Decanter ว่า เขาไม่คิดว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนแชมเปญในช่วง 5-6 ปีที่กำลังจะมาถึงนี้ แต่ถึงกระนั้น ราคาของแชมเปญก็จะยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อไป…

“อย่างที่คุณทราบ ตลาดผู้บริโภคสปาร์กลิ้งไวน์มีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่การผลิตแชมเปญนั้นมีขีดจำกัด เนื่องจากมันเป็นสปาร์กลิ้งไวน์พิเศษที่ต้องผลิตในเฉพาะเขตเท่านั้น นอกจากนี้ การผลิตแชมเปญในปัจจุบันยังมีการพัฒนาไปมาก ทั้งในเรื่องของคุณภาพ และวิธีการปลูกองุ่น ผมจึงคาดว่า แชมเปญจะยังคงมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆในปีต่อๆไป”

สำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ อาจจะยังไม่เห็นว่า มีจำนวนแชมเปญวางจำหน่ายน้อยลงในท้องตลาดแต่อย่างใด แต่ที่ชัดเจนที่สุด คือ ราคาของมันจะยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะต้องจ่ายแพงขึ้น เพื่อจิบไวน์ซ่ามีฟองสักขวด ปัจจุบันเราก็มีตัวเลือกสปาร์กลิ้งไวน์วางจำหน่ายมากขึ้นในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็น Prosecco, Cava, Franciacorta, Moscato, Crémant และ สปาร์กลิ้งไวน์โลกใหม่ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ก็น่าจะสามารถดื่มด่ำพอให้เรามีความสุขได้เหมือนๆกัน คุณคิดว่ายังไงครับ?