ไวน์โคลนนิ่ง
Wine n' Business
ไวน์โคลนนิ่ง

สำหรับคนที่มีเงินเหลือเฟือ แล้วอยากจะซื้อ Rolex สักเรือน กระเป๋ายี่ห้อดังๆ ภาพวาดของศิลปินระดับโลก อย่าง Picasso ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกอะไร การจับจ่ายใช้สอยมันเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ ตราบเท่าที่คุณมีเงินที่จะจ่ายมันลงไป และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองหรือผู้อื่น…

ทว่าในปัจจุบัน ชีวิตเราเริ่มยากขึ้นตรงที่ เรามีเงินซื้อ แต่กลับดูไม่ออกว่า สินค้าหรูต่างๆเหล่านั้นที่เราอยากได้ มันคือของแท้หรือไม่? ทั้งนี้เป็นเพราะเรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นจนสามารถผลิตของเลียนแบบได้มากขึ้น และเหมือนของจริงมากขึ้น มากจนที่เราหลายคนเรียกกันว่า ระดับ Mirror Grade คือ ถอดออกมาเหมือนกันเด๊ะ จนยากที่เราจะดูออกได้

wine

ในวงการไวน์ก็มีเรื่องคล้ายๆกันนี้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อนิตยสารชื่อดังอย่าง The New Scientist ได้ตีพิมพ์รายงานชิ้นหนึ่งออกมา ซึ่งมีเนื่อหาว่า ในปัจจุบัน มีบริษัทผลิตไวน์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Ava Winery (ขออนุญาตไม่ใช้คำว่า โรงไวน์ เพราะพวกเขาไม่ได้ผลิตไวน์แท้ๆ) สามารถเปลี่ยนน้ำธรรมดาให้กลายเป็นไวน์ได้ภายในระยะเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น! ถามว่าเร็วไหม? ผมตอบเลยว่า มันคือน้องๆการเสกขึ้นมาเลยก็ว่าได้…

โดยในกระบวนการผลิต “ไวน์” ของบริษัทแห่งนี้ ไม่ได้ใช้องุ่นเลย แต่ใช้วิธีการนำสารประกอบทางเคมี เช่น สารประกอบที่มีคุณสมบัติของแทนนิน, กลีเซอรีน (glycerin), น้ำตาล, เอทิลบิวเรท และสารปรุงแต่งรสชาติ มาผสมผสานร่วมกับเอทิลแอลกอฮอล์ และน้ำ ผลที่ได้ คือ ของเหลวที่มีรสชาติคล้ายไวน์นั่นเอง แนวคิดของนวัตกรรมใหม่นี้ มีจุดประสงค์เพื่อเลียนแบบรสชาติไวน์ที่มีราคาแพง และออกหน่ายให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ในราคาที่ย่อมเยาว์ โดยสินค้าล่าสุดที่พวกเขาผลิตออกมาแล้วในปัจจุบัน คือไวน์ที่มีรสชาติเลียนแบบแชมเปญฉลากดัง อย่าง Dom Pérignon วางจำหน่ายในราคาเพียง 50 ดอลล่าห์เท่านั้น ซึ่งถูกกว่าของแท้มากมาย

แต่หากถามว่า มันจะมีรสชาติอร่อยเท่ากับของแท้หรือไม่? ผมเชื่อว่าไม่ นอกจากสินค้าตัวนี้แล้ว ก็ยังมีไวน์เลียนแบบตัวอื่นอีก เช่น ไวน์เลียนแบบรสชาติของ Moscato d’Asti ซึ่งนิตยสาร The New Scientist บรรยายว่า เป็นไวน์เลียนแบบที่มาพร้อมโน้ตของชอล์ก สัมผัสได้ถึงรสชาติของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ และมี aftertaste คล้ายสบู่อาบน้ำกลิ่นลาเวนเดอร์! ฟังดูเหมือนจะเป็นไวน์ที่ไม่ได้มีรสชาติแย่อะไรขนาดนั้น แต่ก็คงไม่ได้น่าพิสมัยพอที่จะทำให้เรารู้สึกอยากจิบจนหมดแก้ว

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน เราจะสังเกตุพบว่ามีการนำรสชาติอาหารสังเคราะห์มาใช้มากขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งนี่อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการทดลองของนวัตกรรมนี้ และไม่แน่ว่า ในอนาคตไวน์ลักษณะนี้อาจมีการพัฒนาไปมากกว่านี้ก็เป็นได้ รอติดตามดูกันต่อไป