"ฤดูงานไวน์ดินเนอร์" มาถึงแล้ว
Lifestyle
“ฤดูงานไวน์ดินเนอร์” มาถึงแล้ว

ฤดูท่องเที่ยวมาถึงแล้ว! แถมยังมาพร้อมกับงานไวน์ดินเนอร์อีกมากมาย ซึ่งดูเหมือนจะถูกใจคนกรุง เพราะเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้แต่งตัวเลิศๆออกงาน โชว์เครื่องประดับสวยๆให้โลกได้รับรู้…

สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นชินกับงานไวน์ดินเนอร์ ผมขออนุญาตถือโอกาสนี้บรรยายให้ฟังสักเล็กน้อย

food and wine pairing

โดยปรกติ งานไวน์ดินเนอร์เป็นงานเลี้ยงที่จัดเสิร์ฟมื้ออาหารอย่างต่ำ 4 รายการ แต่บางที่นิยม 5 หรือ 6 รายการ แนวคิดของงาน คือ เพื่อให้ผู้เข้าร่วม ได้มีโอกาสรับประทานอาหารคู่กับไวน์รายการต่างๆ และนี่คือที่มาของการได้กำไรจากการจัดงานประเภทนี้ โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับรายการอาหาร และไวน์ที่นำมาเสิร์ฟ ซึ่งก็ไม่แน่อีกว่า โรงแรม หรือ ร้านอาหารที่จัดงาน จะได้กำไรจากการจัดหรือไม่ เพราะไหนจะต้องบวกเพิ่มค่าแรงงานในห้องครัวอีก

โรงไวน์ที่มีขนาดใหญ่มักจะไม่ค่อยกังวลเรื่องผลกำไรที่จะได้จากการจัดงานไวน์ดินเนอร์ เพราะพวกเขาผลิตไวน์ที่มีราคาหลากหลาย ดังนั้น พวกเขาจึงมักจะเลือกสปอนเซอร์ไวน์ระดับกลางๆ เช่น ไวน์ชาร์ดอนเน่ย์ระดับกลางๆมาให้ทานคู่กับเมนูปลา แต่ถ้าเป็นเมนุเนื้อสัตว์ ก็อาจจะเลือกไวน์แดงประเภท “Reserve Cabernet Sauvignon” หรือไวน์ชีราส ที่มีมูลค่าสูงขึ้นมาสักหน่อย ผู้เข้าร่วมงานไวน์ดินเนอร์ส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้ลิ้มลองไวน์ระดับพรีเมียม โดยส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะภาษีสรรพสามิตที่สูงลิ่วในประเทศไทย

wine dinner cheese pairing

ข้อดีของการจัดไวน์ดินเนอร์ คือ ผู้บริโภคจะได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติ และเรียนรู้ไวน์ที่พวกเขาอาจไม่เคยได้สัมผัสโดยทั่วไปตามท้องตลาด นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้คนทั่วไปได้รู้จักคุณค่าของการจิบไวน์ ว่า ไวน์ไม่ใช่เรื่องของการดื่มเพื่อเมา แต่เป็นการจิบเพื่อเพิ่มรสชาติอาหาร นอกจากนี้ การจิบในปริมาณที่พอเหมาะ ยังสามารถช่วยให้สุขภาพดีได้อีกด้วย

ในทรรศนะของผม งานไวน์ดินเนอร์สามารถล้มเหลวไม่เป็นท่าได้ หากไวน์ที่ถูกนำมาจับคู่กับเมนูอาหารในงาน มีรสชาติที่ซ้ำซากจำเจ ไม่ค่อยมีคุณลักษณะที่โดดเด่นอะไรมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไวน์ลักษณะนี้ถูกนำมาจับคู่กับอาหารระดับไฮเอนที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ ผู้จัดจำหน่ายไวน์ และคุณภาพเชฟของโรงแรมหรือร้านอาหารที่จัดงาน จะต้องมีความสมน้ำสมเนื้อกัน

ผมได้รับคำเชิญเข้าร่วมงานไวน์ดินเนอร์จากหลากหลายสถานที่ แต่เหตุผลที่ผมจะเลือกเข้าร่วมมีอยู่ไม่กี่เรื่อง นั่นคือ ราคา และคุณภาพของไวน์นำมาแพริ่งในงาน ผมจะพิจารณาว่าไวน์เหล่านั้นสมควรได้รับการพูดถึงหรือไม่ ราคาไวน์ดินเนอร์ที่ผมได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมเมื่อเร็วๆนี้ มีราคาอยู่ระหว่าง 1500 บาท ถึง 8,000 บาท

red wine pouring in the glass

เมื่อเจองานไวน์ดินเนอร์ที่คุณสนใจอยากเข้าร่วม จะต้องทำยังไงต่อไป?

ก่อนอื่นเลย ผมแนะนำให้ซื้อหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ฉบับวันศุกร์ เพราะในนั้น เขาจะลิสต์งานไวน์ดินเนอร์ต่างๆที่กำลังจะมีขึ้นเอาไว้ เมื่อเจองานที่ถูกใจแล้ว ก็แค่ติดต่อไปตามเบอร์โทร หรือ อีเมลที่ระบุไว้ เพื่อแจ้งให้ทางผู้จัดงานทราบ เมื่อไปถึงที่งาน คุณอาจแสดงนามบัตร หรือแจ้งอีเมล เพื่อที่พวกเขาจะได้ติดต่อคุณเองในภายหลัง เมื่อมีการจัดงานไวน์ดินเนอร์ครั้งต่อไป

ขั้นตอนสุดท้าย ก็แค่เตรียมอิ่มอร่อยไปกับมื้อค่ำ และไวน์เหล่านั้นที่คุณรอคอย อย่าลืมทักทายเพื่อนร่วมโต๊ะ และกล่าวคำว่า “Bon Appetit!” ด้วยนะครับ

[เรียบเรียงจากบทความของ David Swartzentruber]