6 ไร่องุ่นไบโอไดนามิคที่คุณไม่ควรพลาด
Travel n' Wineries
6 ไร่องุ่นไบโอไดนามิคที่คุณไม่ควรพลาด

เป็นที่ชัดเจนว่า ปรัชญาการทำธุรกิจ การทำการเกษตร หรือแม้แต่การดำรงชีวิตแบบยั่งยืน หรือ Sustainability กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ เราถูกบีบบังคับจากสภาวะภูมิอากาศของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง(ไปในทางที่เลวร้ายยิ่งขึ้น) อีกทั้งทรัพยากรธรรมชาติต่างๆที่มีอยู่อย่างจำกัด ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้แปลว่า เราจะต้องละทิ้งเทคโนโลยี ความทันสมัย และความสะดวกสบาย แล้วหันมาใช้ชีวิตในท้องไร่ท้องนาตามชนบทกันทุกคน เพราะหากเราสามารถนำปรัชญาความยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ได้อย่างลงตัวแล้ว ก็จะช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ทั้งยังสนองความต้องการของเราที่มีอยู่ และได้ช่วยเยียวยารักษาโลกใบนี้ไปได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย

ในวงการไวน์ก็เช่นกัน ผู้ผลิต และโรงไวน์หลายแห่งได้เริ่มหันมาสนใจ และตระหนักถึงความสำคัญของการทำไร่องุ่นบนพื้นฐานปรัชญาการทำการเกษตรแบบยั่งยืน โดยพวกเขาจะเน้นปลูกองุ่นแบบออร์แกนิค เพื่อผลิตไวน์ที่มีความเป็นธรรมชาติดั้งเดิม ตลอดจนพัฒนาแนวทางการทำการเกษตรแบบไบโอไดนามิค หรือที่ภาษาไทย แปลเก๋ๆว่า “ชีวพลวัต”

ร่ายมาขนาดนี้ เลยอยากชวนคุณไปดูว่า มีโรงไวน์สวยๆที่ไหนบ้าง ที่นำปรัชญาการทำการเกษตรแนวนี้มาใช้ และน่าเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดครั้งต่อไป

  1. Château de Chambert

โรงไวน์แห่งนี้ตั้งอยู่ในแคว้น Cahors ของประเทศฝรั่งเศส จึงไม่น่าแปลกที่ไวน์ส่วนใหญ่ที่ผลิตที่นี่เป็นไวน์ Malbec นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีไร่องุ่นที่สวยงามน่าท่องเที่ยว ในขณะที่ไวน์ออร์แกนิคจำนวน 6 ฉลากจาก Château de Chambert ยังเพิ่งจะได้รับการจัดอันดับให้ติด 1 ใน 50 ไวน์ที่ดีที่สุดของโลกในปี 2016 โดยเว็บไซต์ไวน์ชื่อดัง Decanter อีกด้วย

chateau de chambert

  1. Black Estate

Black Estate Vineyards

ไร่องุ่น Black Estate ทอดตัวอยู่ในหุบเขาที่มีชื่อว่า Waipara Valley ในประเทศ New Zealand ที่นี่มีโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่ล้ำเลิศเหมาะสำหรับปลูกองุ่นเป็นอย่างยิ่ง กล่าวคือ มีลักษณะเป็นหินปูนผสมดินเหนียว โดยสายพันธุ์องุ่นที่เน้นผลิต ได้แก่ Pinot Noir, Chardonnay และ Riesling นอกจากนี้ Black Estate ยังให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมในการปลูกองุ่น ตลอดจนมีห้องอาหาร และห้องชิมไวน์ที่มีเสน่ห์น่าหาโอกาสไปเยือน อีกด้วย

คุณสามารถสัมผัสรสชาติบริสุทธิ์ของไวน์จาก Black Estate ได้แล้ววันนี้ ที่ห้องอาหาร และบาร์ไวน์ธรรมชาติ About Eatery ย่านอโศก กรุงเทพฯ 

  1. Barone Pizzini

Barone Pizzini

Barone Pizzini เป็นผู้ผลิตจากแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี นั่นคือ Franciacorta โรงไวน์แห่งนี้เริ่มประกอบธุรกิจมาตั้งแต่ในปี 1870 โดยในประวัติศาสตร์ เคยมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยการบินรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1(WWI flying aces) และแบรนด์รถหรูชื่อดัง อย่าง Ferrari อย่างไรก็ตาม ในปี 1998 Barone Pizzini ได้หันมาจับธุรกิจผลิตไวน์ Franciacorta  อย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมุ่งเน้นการใช้กรรมวิธีการผลิตที่เป็นออร์แกนิค ที่นี่ยังมีทัศนียภาพของไร่องุ่นที่งดงาม และจัดทัวร์สำหรับคอไวน์นักเที่ยวที่อยากเรียนรู้กระบวนการผลิตไวน์แบบดั้งเดิม และเข้าชมห้องเก็บไวน์ใต้ดินที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่ยังเปิดหลักสูตรอบรมการทำไวน์สำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย

  1. Château Pontet-Canet

Chateau Pontet-Canet

ไร่องุ่นแห่งนี้จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้มค่าสำหรับคอไวน์ทั่วโลกที่จะเดินทางมา เพราะเป็นไร่องุ่นที่มีอายุอานามตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และไวน์ของพวกเขายังถูกรวมอยู่ในรายชื่อการจัดลำดับชั้นไวน์ฝรั่งเศสในปี 1855 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “The 1855 Bordeaux Classification” ซึ่งยืนยันการเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลไวน์ชั้นสูงจาก Médoc โดยพวกเขายังเน้นผลิตไวน์ที่มีความเป็นออร์แกนิคมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และยังได้จัดโปรแกรมทัวร์แบบส่วนตัวไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

  1. Bolfan Vinski Vrh

ผู้คนส่วนใหญ่มักลืมไปว่าพวกเขาสามารถค้นพบไร่องุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลกได้ในเขตยุโรปกลาง และยุโรปตะวันออกได้เช่นกัน และหนึ่งในนั้น คือ ไร่องุ่น Bolfan Vinski Vrh ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงซาเกร็บ(Zagreb)ในประเทศโครเอเชีย ซึ่งที่นี่เน้นผลิตไวน์ไบโอไดนามิคเพียงอย่างเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่ไวน์ของพวกเขาคว้ารางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ Bolfan Vinski Vrh ยังได้จัดโปรแกรมทัวร์ไร่องุ่น เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำไวน์ไบโอไดนามิค รวมถึงยังได้จัดเตรียมห้องพักไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่หลงใหลรสชาติของไวน์ไบโอไดนามิค และต้องการดื่มด่ำบรรยากาศของหนึ่งในไร่องุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย

Bolfan Vinski Vrh

  1. Sao Del Coster

โรงไวน์ Sao Del Coster ถูกก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มสหายชาวสวิสที่มีความหลงใหลในในธรรมชาติที่งดงามของเขตชุมชน Priorat ในแคว้น Catalonia ประเทศสเปน โดยธุรกิจเริ่มต้นขึ้นในปี 2004 ในปัจจุบันพวกเขากำลังนำแนวคิดการผลิตไวน์แบบไบโอไดนามิคมาประยุกต์ใช้ กล่าวคือ มีการทำไร่องุ่นโดยคำนึงถึงอิทธิพลการเคลื่อนย้ายของดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ เคารพต่อวงจรธรรมชาติในท้องถิ่นเป็นหลัก ส่งผลให้ได้ไวน์ไบโอไดนามิคที่มีรสชาติน่าประทับใจ ผู้มาเยือนจะได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจของทั้งไร่องุ่น และไวน์ธรรมชาติที่ผลิตขึ้นจากที่นี่

Sao del Coster