Wine n' About

รู้จัก Single Malt และ อันดับตัวท็อปที่พลาดไม่ได้

 

เหล้าสปิริตที่มีรสชาติแรง ไม่เหมาะที่จะนำมาผสมกับค็อคเทล หรือจิบเป็นช็อตเพียวๆเพื่อให้เมา… ไม่ว่าจะเป็นเหล้า ไวน์ หรือเบียร์ หากเรารู้วิธีจิบแบบพอดี จิบอย่างเข้าใจ และจิบอย่างมีความรู้แล้ว ก็จะช่วยให้เราดื่มด่ำรสชาติของเครื่องดื่มนั้นๆได้อย่างเพลิดเพลินยิ่งขึ้น

 

วิสกี้แบบซิงเกิ้ลมอลต์ (Single Malt Whisky) เป็นเหล้าที่มีรสชาติเข้มข้นมากที่สุดในโลก ผลิตจากเมล็ดธัญพืชที่ถูกเพาะให้งอก (ปรกติใช้ข้าวบาร์เลย์), น้ำ และยีสต์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างยุ่งยาก และและซับซ้อน ตั้งแต่การเพาะให้งอก(malting), อบแห้ง, บด, หมัก, กลั่น, เจือจาง, บ่ม, เจือจางครั้งที่สอง และการบรรจุขวด

 

การจิบวิสกี้ ก็เหมือนกับการจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ กล่าวคือ มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ แต่โชคดีที่เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้กันอยู่แล้ว เราจึงไม่ต้องศึกษาด้วยตัวเองทั้งหมด แค่เริ่มต้นด้วยการทำตามคำแนะนำต่างๆของกูรูเหล่านั้น

 

สำหรับเวิร์กชอปกิจกรรมที่ชื่อว่า Single Malt Masterclass ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ช่วยให้เราได้รู้จักกับวิสกี้ซิงเกิ้ลมอลต์ดีๆ มีคุณภาพ จุดประสงค์ของงานนี้ คือ ให้ผู้เข้าร่วมทั้งหลายเข้าใจถึงประวัติความเป็นมา ของเหล้าซิงเกิ้ลมอลต์ กิจกรรมยังสอนถึงรสชาติและกลิ่นหอมของที่มีความแตกต่าง ที่เกิดขึ้นจากสถานที่บ่มเหล้าที่ต่างออกไปในสกอตแลนด์ ทั้งยังสอนวิธีดูตัวเลขข้างขวดเหล้าซิงเกิ้ลมอลต์อีกด้วย ปิดท้ายด้วยการ สอนวิธีดื่มแบบต่างๆ รวมทั้ง การแพริ่งหรือจับคู่กับเมนูอาหารที่เหมาะสม เพื่อช่วยเสริมรสชาติให้ดีขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจเวิร์กชอปนี้ว่ามีอะไรอีกบ้างตามไปดูกันได้เลยที่ Single Malt Masterclass 

 

เราขอแนะนำ SINGLE MALT WHISKY 4 อันดับ ยอดเยี่ยมแห่งปี 2020

 

อันดับ 1 The Singleton Of Dufftown 12 Years Old

 

Chiropractor in Kendall

 

The Singleton Of Dufftown 12 Years Old แบรนด์ที่มีโลโก้โดดเด่นเป็นรูปปลาแซลม่อนกระโจนอยู่ด้านบน!
และเมื่อเปิดกล่องออกมา จะเห็นขวดทรงคลาสสิค สีเขียวมรกต ซึ่ง Singleton รุ่นนี้มาจากเขต Speyside ประเทศสกอตแลนด์ จุดเด่นอยู่ตรงที่มีความ smooth และมีความเป็นเอกลักษณ์ของ Single malt Scotch Whisky โดยแท้จริง มาพร้อมกับโน๊ตผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และ brown sugar ซึ่งจะทำให้ได้กลิ่น fruity notes หอมบางๆ ให้ความรู้สึกที่ทั้งคลาสสิก และนุ่มนวล ดื่มสบายอีกด้วย

นอกจากนี้สำหรับคนที่กำลังมองหาความรู้ซิงเกิ้ลมอลต์โดยเฉพาะ เราขอแนะนำ “Single Malt Masterclass” เวิร์กช็อปที่มุ่งเน้นความรู้ ประวัติความเป็นมา รวมถึงวิธีการดื่มอย่างสากล ที่ให้คุณดื่มเป็นอย่างมืออาชีพ

 

อันดับ 2 Bruichladdich Black Art 4.1

 

Chiropractor in Kendall

 

 

 

นี่คือวิสกี้สูตรลับที่เรียกได้ว่า เป็นเสน่ห์แห่งความมืด มาพร้อมอโรม่ายวนยั่วของหนังสัตว์, ยาสูบ และ น้ำตาลจากข้าวบาร์เลย์ รสชาติมีความมัน เข้มข้น เคล้ารสของเครื่องเทศ และผลไม้สีดำอันเข้มข้น ทิ้งรสสุดท้ายยาวนาน

 

อันดับ 3 Lagavulin 16 Years Old

 

Chiropractor in Kendall

 

วิสกี้หอมกลิ่นควัน เครื่องเทศ ผลเชอร์รี่ที่โตเต็มวัย และครีมวานิลลา เนื้อหนา เข้มข้น สัมผัสได้ถึงรสชาติของมอล์ต และเชอร์รี่ที่อบอวลไปทั่วกระพุ้งปาก หวานฟรุตตี้น่าหลงใหล นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยอรรถรสอันทรงพลังของถ่านหิน และไม้โอ๊ค ทิ้งรสสุดท้ายยาวนาน เผ็ดร้อน เคล้าอโรม่าของผลมะเดื่อ, ควันถ่านหิน และวานิลลา

 

อันดับ 4 The Glenlivet Nàdurra Oloroso

 

Chiropractor in Kendall

 

 

เป็นวิสกี้ที่ส่งกลิ่นหอมของผลไม้แห้ง สอดประสานเข้ากับรสช็อคโกแลตเข้มข้น และรสถั่วนวลๆ แฝงกลิ่นไหม้ของไม้ขีดไฟ, จันทน์เทศ, อบเชย และวานิลลา ยังมาพร้อมรสชาติของดาร์คช็อคโกแลต, ส้ม และผลไม้สด กลิ่นหอมของจันทน์เทศหวนกลับมาอีกครั้งหลังรับรู้ได้จากครั้งแรกไปสักพัก สัมผัสสุดท้ายทิ้งกลิ่นดาร์คช็อคโกแลต และเครื่องเทศแห้ง

 

ทั้งหมดนี้คือ Single Malt แห่งปี 2020 ที่เหล่าแฟนๆวิสกี้พลาดไม่ได้! ลองไปหามาจิบกันดูครับ

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

ขออภัยรายการนี้จะใช้ได้เฉพาะในภาษา English.

งานเทศกาลไวน์ธรรมชาาติซึ่งจัดไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 เมษยน ที่ผ่านมา ที่ห้องอาหาร About Eatery จัดได้ว่าประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเยี่ยม งานดังกล่าวจัดขึ้นทั้งหมด 5 วัน ภายในงานมีการจัดเวิร์คช็อป, ไวน์เทสติ้ง และสัมมนาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับไวน์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของวงการไวน์ในปัจจุบัน แต่นอกจากจะได้ความรู้แล้ว งานนี้ยังทำให้คอไวน์ฟินกันสุดๆไปตามๆกัน

Processed with VSCO with a5 preset

แน่นอนว่างานนี้เต็มไปด้วยไวน์ธรรมชาติมากมายหลากหลายรายการจากแหล่งผลิตชื่อดัง แต่เราก็ไม่สามารถชิมได้ครบหมดทุกรายการ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีไวน์รายการหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจมากๆ ที่เราอยากจะขอเอามาพูดถึงในบทความนี้

Radikon Jakot Friulano Bianco IGT ปี 2009 เป็นออร์เรนจ์ไวน์ที่ทำมาจากองุ่นสายพันธุ์ Tocai Friulano 100% ผลิตโดยผู้ผลิตในประเทศอิตาลีที่มีชื่อว่า Stanislao (Stanko) Radikon

ตามคำกล่าวของคุณรณวิช ผู้ก่อตั้งบริษัทนำเข้าไวน์ Estella Wine ไวน์รายการนี้มีกระบวนการทำที่มีความเป็นธรรมชาติ แบบ “hardcore” มากๆ เรียกได้ว่าเป็น “ออร์เรนจ์ไวน์ตัวแม่ของวงการ” เขากล่าวระหว่างการจัดเวิร์คช็อปซึ่งมีหัวข้อหลักเกี่ยวกับออร์เรนจ์ไวน์ โดยมีไวน์ฉลากนี้เป็นพระเอก

Processed with VSCO with a5 preset

เมื่อพูดถึงคำว่า “hardcore” หลายคนนึกถึงเรื่องเซ็ก หรือหนังแนว BDSM อะไรทำนองนั้น แต่เมื่อใช้คำนี้ในบริบทของการผลิตไวน์ธรรมชาติ โดยเฉพาะกับไวน์ Radikon แล้ว มันหมายถึงกระบวนการผลิตไวน์ที่เน้นความเข้มข้น ดั้งเดิม เรียกได้ว่ากระบวนการผลิตอื่นๆทั่วไปเทียบไม่ติด

ไวน์ Radikon รายการที่เราได้มีโอกาสชิม เป็นออร์เรนจ์ไวน์สีส้มทอง ดูคล้ายบรั่นดี  มีกลิ่น และรสชาติที่เข้มข้นมาก ถ้าเอาปลายจมูกไปจ่อดมใกล้ๆที่ปากแก้ว คุณจะได้กลิ่นแอซิดีตี้ของมันปะทะเข้าจมูกอย่างเต็มแรง ซึ่งค่อยๆจางลงจนรู้สึกได้ถึงอะโรม่าที่ซับซ้อนของผลไม้แห้ง ส้มจีน และกลิ่นสมุนไพรเผา

ในส่วนของรสชาติ ยังคงสัมผัสได้ถึงโน้ตของส้มจีน ผิวแอปเปิ้ลสีแดง และเหล็ก ซึ่งผสมกลืมกลืนมาพร้อมรสของแอซิดิตี้ เซนส์แรกที่คุณจะมีต่อไวน์ตัวนี้ คือ มันเป็นไวน์ที่มีบุคลิกแรง บางทีอาจแรงเกินไปสำหรับคอไวน์หลายคนที่ชอบไวน์รสชาตินุ่มๆแต่ถ้าคุณได้ลองแล้ว ก็จะรู้ว่า นางเป็นไวน์ที่ภาพแรกดูแรง แต่หลังจากนั้ก็จะค่อยๆมีความซับซ้อนมากขึ้น เผยเสน่ห์ที่น่าค้นหา

Processed with VSCO with a5 preset

Radikon เป็นไวน์ที่มีสีสันสวยน่าค้นหา พอๆกับกลิ่น และรสชาติของตัวเอง กล่าวคือ มีสีส้มสดใส เนื้อไวน์มีความขุ่น เป็นไวน์ที่หมักร่วมกับเปลือกเป็นเวลา 4 เดือน ที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส เหตุผลของระยะเวลาการหมักนี้ ไม่ใช่มีเจตนาเพื่อทำให้ไวน์มีสีสันตามที่ต้องการ แต่เพื่อให้ไวน์ซึมซับคุณลักษณะที่สำคัญจากเปลือกองุ่นที่หมักร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังไม่มีการใช้สารซัลเฟอร์ในกระบวนการผลิตอีกด้วย

ผู้ผลิตไวน์ Radikon ถือเป็นต้นแบบที่นักทำไวน์ธรรมชาติหลายคนต้องการที่จะเจริญรอยตามในแง่ของการผลิตไวน์โดยแทรกแซงการผลิตให้น้อยที่สุด  มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยถูกนักถ้าจะบอกว่า Radikon เป็นไวน์ที่มีคุณลักษณะคล้ายกับไวน์ธรรมชาติอื่นๆส่วนใหญ่ การเผยคุณลักษณะที่เป็นอัตลักษณ์ มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ เป็นหัวใจสำคัญของการทำไวน์ธรรมชาติ ที่ทำให้มันเป็นไวน์เทรนด์ใหม่ของโลกที่น่าค้นหา น่าค้นพบ ทุกครั้งที่คุณจิบไวน์ธรรมชาติแต่ละรายการ คุณจะเข้าถึงสัมผัสใหม่ในทุกๆครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไวน์ที่ผลิตจากผู้ผลิตเจ้าเดียวกันก็ตาม

สำหรับมือใหม่ที่อยากลิ้มลองไวน์ธรรมชาติเป็นครั้งแรก เราขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นที่ไวน์ Radikon ซึ่งข่าวดีก็คือ มันมีวางจำหน่าย และพร้อมให้จิบแล้วที่ห้องอาหาร About Eatery แต่หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.estellawine.com และ www.radikon.it