ผมมั่นใจว่า แขกทุกคนที่ได้มาเยือน Bar@494 ในวันนี้ ต่างมีความรู้สึกแบบเดียวกัน… ค่ำคืนที่น่าอภิรมย์ กับอาหารอร่อยละลานตา ไวน์รสชาติดีเลิศ และผู้คนที่น่ารัก คือเครื่องพิสูจน์ว่า ทีมงานของโรงแรม Grand Hyatt Erawan รู้วิธีจัดงานไวน์เทสติ้งที่ยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี
Bar@494 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีความหลงใหลในไวน์ และจัดงานชิมไวน์ทุกเดือนมาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็มแล้ว
สูตรการจัดงานอาจไม่แตกต่างจากที่อื่นๆ คือ บริษัทผู้ผลิตคัดเลือกไวน์ฉลากระดับเรือธงของพวกเขาเพื่อมาจัดเสิร์ฟในงาน โดยมีทางโรงแรม Grand Hyatt Erawan เป็นผู้สนับสนุนเรื่องเมนูอาหาร บริการระดับมืออาชีพ และสถานที่สวยๆไว้คอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน
เว็บไซต์ Wine n’ About ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน และร่วมสัมผัสรสชาติไวน์จากผู้ผลิตที่ถือว่า เป็นระดับแถวหน้าของอิตาลีเลยก็ว่าได้ ผู้ผลิตไวน์ที่ผมกำลังพูดถึง คือ Masi ซึ่งหลายคนทราบดีว่า เป็นผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเทคนิคการทำไวน์แบบ “appassimento” ซึ่งเป็นการนำองุ่นมาทำให้แห้งพอประมาณ คือไม่แห้งทั้งหมด ก่อนนำมาคั้นเอาน้ำเพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการหมักและบ่มต่อไป ไวน์ที่ได้จึงมีรสชาติที่ข้นและเข้มได้ใจ
ในงานไวน์เทสติ้งครั้งนี้ ทาง Masi ได้นำเสนอให้แขกผู้มาเยือนได้ชิมทั้งสิ้น 4 ฉลากด้วยกัน เป็นไวน์แดง 2 ฉลาก และไวน์ขาวอีก 2 ฉลาก เรามาต้นชิมกันเลยดีกว่า…
ผมเริ่มที่ไวน์ขาวสไตล์อะโรมาติก ที่มีชื่อว่า Levarìe ไวน์ฉลากนี้จัดเป็นหนึ่งในไวน์ระดับคลาสสิกของ Masi ซึ่งใช้กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมของชาวเมืองเวโรน่า ทำจากสายพันธุ์องุ่นท้องถิ่นที่ปลูกในเขต Soave Classico, Garganega และ Trebbiano มาพร้อมกลิ่นหอมโดดเด่นของลูกแพร์ เคล้าประสานด้วยรสเปรี้ยวของไซตรัส และสับปะรด
ผมไม่รอช้า ชิมต่อกับไวน์ขาวฉลากที่ 2 ชื่อว่า Masianco เป็นไวน์ Pinot Grigio ที่มีรสชาติหอม และสดชื่น ใช้เทคนิคการผลิตแบบ appassimento ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเป็นเทคนิคที่ใช้สำหรับทำไวน์แดง โดยไวน์ฉลากนี้มาพร้อมกลิ่นหอมยั่วยวนของส้มไซตรัส ดอกไม้สีขาว และน้ำผึ้ง ในส่วนของรสชาติ สัมผัสได้ถึงรสของเลม่อน, ลูกพีช และแอปริคอต แต่ยังคงแทรกซ่อนด้วยโน้ตดีงามของน้ำผึ้ง
เข้าสู่โหมดไวน์แดงกันบ้าง ซึ่งซอมเมลิเย่ร์ของร้านแนะนำให้ผมเริ่มต้นชิมด้วยไวน์แดง Valpolicella Classico ที่มีชื่อว่า Bonacosta เป็นไวน์แดงที่มีน้ำหนักเบา รสดราย ได้จากการผสมผสานของสุดยอดองุ่นสายพันธุ์ท้องถิ่น ได้แก่ Covina, Rondinella และ Molinara (สาวก Amarone คงรู้จักกันดี) Bonacosta ควงคู่มาพร้อมกลิ่นหอมเข้มข้นของผลเชอร์รี่สุก ที่ยังคงมีอานุภาพแรงไปถึงรสชาติ ในส่วน aftertaste สัมผัสได้ถึงเซนส์ของวานิลลา
ผมปิดท้ายด้วยไวน์แดง Amarone ที่มีชื่อว่า Costasera มันเป็นไวน์หมัดเด็ดของผู้ผลิต ทำจากองุ่นสายพันธุ์ Corvina, Rondinella และ Molinari ซึ่งถูกนำมาทำให้แห้งโดยวางตากทิ้งไว้ในชั้นไม้ไผ่ในช่วงหน้าหนาว ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการผลิต เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มกลิ่นหอมเข้มข้นขององุ่น ไวน์ที่ได้จึงมีสีแดงทับทิมเข้ม หอมกลิ่นผลไม้อบ, ลูกพลัม และเชอร์รี่ รสชาติมีความเข้มข้น ฟรุตตี้ แทรกโน้ตของกาแฟ และโกโก้
อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ตอนต้นว่า ที่ Bar@494 มีการจัดงานชิมไวน์ทุกเดือน จึงไม่น่าแปลกใจว่า พวกเขาจึงต้องพยายามคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อมาเอาใจแขกผู้มาเยือนทุกคน ทั้งในแง่ของรสชาติไวน์ และคุณภาพของผู้ผลิต
ในงานนี้ ทางเจ้าของสถานที่ เลือกจัดอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ และไวน์ที่มีให้ชิมเป็นแก้วแบบไม่อั้น ในราคา 899 บาท++ ต่อท่าน
Bar@494 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่บ่าย 3 โมงเย็น ถึง เที่ยงคืน โดยยังได้จัดโปรโมชั่น ไวน์บุฟเฟ่ต์ ในราคา 799 บาท++ ที่มีให้บริการทุกวันเช่นกัน แต่เฉพาะเวลา 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม เท่านั้น
อีกหนึ่งโปรโมชั่นของทางร้าน คือ Happy Hour ซึ่งเป็นโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 มีให้บริการเฉพาะตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็น ถึง 1 ทุ่ม
สำหรับคอไวน์ที่กำลังมองหาบรรยากาศใหม่ๆสำหรับจิบไวน์ และบริการที่เป็นมิตร ผมคิดว่าคุณควรลองมาที่ Bar@494 ดูสักครั้งครับ