เดือนที่ผ่านมา ผมเขียนบทความเกี่ยวกับรายงานการเก็บเกี่ยวผลองุ่นในปี 2015 ของประเทศต่างๆทางซีกโลกเหนือไปแล้ว ซึ่งปัจจัยหลักๆที่ส่งผลกระทบต่อฤดูเก็บเกี่ยวตลอดเดือนที่ผ่านมาในปีนี้ยังคงเหมือนเดิม กล่าวคือ ปี 2015 เป็นปีที่มีอากาศร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา และส่งผลให้ฤดูเก็บเกี่ยวองุ่นในแหล่งผลิตไวน์ส่วนใหญ่เริ่มต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม คำถามที่ผู้ปลูกองุ่น และนักทำไวน์ต้องครุ่นคิด คือ “นี่คือเรื่องไม่ธรรมดาที่จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาหรือไม่?”
ออสเตรีย
คุณ Johannes Schmuckenschlager ประธานสมาคมผู้ปลูกองุ่นประเทศออสเตรีย (Austrian Winegrowers’ Association) แสดงความคาดการณ์ต่อผลผลิตในปี 2015 ว่า ”สืบเนื่องจากวินเทจปี 2014 ที่ยากลำบาก ผลผลิตจากไร่องุ่นต่างๆในปีนี้ น่าจะประเมินอยู่ที่ 2.4–2.5 ล้านเฮกโตลิตร” โดยผลผลิตมีคุณภาพและปริมาณสูงกว่าในปีที่ผ่านมา เนื่องจากฝนที่เข้ามาในช่วงเดือนสิงหาคม
แคลิฟอร์เนีย
ตามรายงานก่อนหน้านี้ ผลผลิตที่ได้จากการเก็บเกี่ยวในปี 2015 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ลดลง 35% อย่างไรก็ตาม แฟนๆไวน์จากแคลิฟอร์เนียไม่น่าจะต้องบ่นในเรื่องนี้ เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผลผลิตที่ได้มีจำนวนมหาศาล ชาวแคลิฟอร์เนียจึงมีไวน์พอเหลือจิบกันอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ฤดูร้อนที่โหดร้ายในปีนี้ ส่งผลให้สายพันธุ์องุ่นส่วนใหญ่สุกเร็วกว่าที่คาดไว้หนึ่งเดือน
ฝรั่งเศส
เขตอัลซาส: ในปี 2015 คาดว่าไวน์ส่วนใหญ่จะมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงขึ้นถึง 16% และอาจจะมีปริมาณน้ำตาลมากเกินกว่าที่จะนำมาทำไวน์อัลซาสรสดรายแบบดั้งเดิม ไวน์หวานอาจทำได้โดยการทำให้องุ่นแห้ง ในเขตอัลซาส ผู้ผลิตเพิ่งจะได้รับอนุญาตให้ใช้กระบวนการเพิ่มความเปรี้ยวในไวน์(Acidification)เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
บอร์โด: แหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกแห่งนี้ ให้ผลผลิตที่ดีที่สุดในรอบหลายปี โดยคุณ Eric Boissenot ผู้เชียวชาญด้านการทำไวน์ ได้กล่าวไว้ในนิตยสาร Decanter ว่า ”มันเร็วไปที่จะบอกว่า ผลผลิตที่ได้ในปีนี้จะถึงขึ้นดีมาก หรือดีเยี่ยม”
เบอร์กันดี: Pinot Noir เป็นหนึ่งในสายพันธุ์องุ่นที่พบน้อยที่สุดตั้งแต่ปี 2009 ไวน์เบอร์กันดีที่มีคุณภาพควรจะต้องมีรสชาติเข้มข้น, กลมกล่อม และเปรี้ยวพอดี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มีพื้นที่ผลิตไวน์สำคัญอย่าง Chablis ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุลูกเห็บไม่กี่วันก่อนที่ฤดูเก็บเกี่ยวจะเริ่มขึ้น
แชมเปญ: ฤดูเก็บเกี่ยวในปีนี้ เริ่มต้นเร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 10 วัน โดยผู้ปลูกองุ่นแสดงความเห็นว่า ผลผลิตในปีนี้มีคุณภาพที่ “เยี่ยมยอด”
โรน: ผู้ปลูกองุ่นทางตอนเหนือของเขตโรน กล่าวว่า “ปีนี้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุดในรอบ 55 ปี” ในขณะที่ผู้ปลูกองุ่นทางตอนใต้ ต้องพบกับปัญหาในเรื่องการสุกงอมขององุ่นสายพันธุ์ Grenache โดยผู้ปลูกองุ่นท่านหนึ่งกล่าวว่า ”ปัญหานี้ทำเอาเราไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว”
เยอรมัน
ฝนในช่วงเดือนสิงหาคมในประเทศเยอรมันช่วยให้พืชผลในปี 2015 อยู่รอดปลอดภัย ฤดูร้อนที่ร้อนแรงและแห้งทำให้ผลผลิตลดลง แต่เมื่อฝนเข้ามาก็ช่วยให้องุ่นเริ่มสุกงอมในสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน ซึ่งช้ากว่าปรกติ องุ่นที่สุกช้าเหล่านี้ประกอบไปด้วยองุ่นสายพันธุ์ เช่น Sylvaner และ Riesling ซึ่งได้รับประโยชน์จากสภาพแดดจัดในเดือนตุลาคม ส่งผลให้มีปริมาณน้ำตาลสูงขึ้น และนั่นหมายถึงระดับแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้นด้วย ประมาณ 13. 5% หรือมากกว่านั้น การหมักไวน์จะช่วยให้ไวน์มีอโรม่าที่หอม แต่ต้องหมักยีสต์นานขึ้นกว่าเดิม ถึงตอนนั้น เราถึงจะรู้ว่าปี 2015 เป็นวินเทจที่ยอดเยี่ยมสำหรับไวน์เยอรมันหรือไม่
อิตาลี
ฤดูร้อนในประเทศอิตาลี มีความแห้งแล้งมากในบางพื้นที่ จนต้องพึ่งระบบชลประทาน อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของประเทศ รายงานว่า การเพาะปลูกซึ่งให้ผลผลิต 42 ล้านเฮกโตลิตร เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 12% โดยปรกติในแต่ละปี จะมีปริมาณน้ำฝนประมาณ 1,000 มม. แต่ในปี 2015 มีปริมาณน้ำฝนเพียง 400 มม. อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และการเกิดโรค ผู้ค้าไวน์รายหนึ่ง กล่าวว่า สภาพอากาศที่เย็นลงในช่วงเดือนกันยายน ส่งผลให้ไวน์มีรสชาติที่ “เลิศล้ำ” นอกจากนี้ ยังมีรายงานออกมาว่า การเก็บเกี่ยว Prosecco ในปีนี้ ยังให้ผลผลิตที่ดีอีกด้วย
โอเรกอน
โดยทั่วไปแล้ว รัฐโอเรกอนมีสภาพอากาศที่เย็นกว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ฤดูเก็บเกี่ยวองุ่นของรัฐโอเรกอนในปี 2015 เริ่มต้นเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ 2 สัปดาห์ เหมือนกับในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยคุณภาพขององุ่น Pinot Noir ที่ได้ ค่อนข้างดีเกินไปด้วยซ้ำ ผู้ค้าไวน์บางรายมุ่งหวังที่จะผลิตไวน์ Pinots ที่มีรสชาติกลมกล่อม มากกว่าเป็นไวน์รสเข้ม แรง กำยำ และมีแอลกอฮอล์สูง ซึ่งอาจบิดเบือนคุณลักษณะดั้งเดิมของไวน์ Pinot Noir ได้
สเปน
รายงานในช่วงแรกๆ ระบุว่า การเก็บเกี่ยวองุ่นในประเทศนี้เริ่มต้นขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 2 สัปดาห์ โดยคุณภาพของผลผลิตที่ได้ พบว่าอยู่ในระดับดีถึงดีเยี่ยม ในขณะที่ฝนที่ตกในช่วงกลางเดือนสิงหาคมชี้ให้เห็นว่าน่าจะได้คุณภาพการผลิตที่ดี
[เรียบเรียงจากบทความของ David Swartzentruber]