เมื่อพูดถึงไวน์โลกเก่า หลายคนพลันต้องคิดถึงไวน์จากฝรั่งเศส, อิตาลี, โปรตุเกส และสเปน อีกแห่งที่อยากชวนให้นึกถึง คือ ไวน์จากทางตอนใต้ของเยอรมัน ส่วนสปาร์กลิ้งไวน์ของชาวอังกฤษก็จัดว่ามีจุดเด่น แต่เพิ่งมีขึ้น จึงไม่นับว่าเป็นไวน์โลกเก่า
แหล่งไวน์โลกเก่าของยุโรป ส่วนมากจะพบได้ทางตะวันออกมากกว่าทางตะวันตกของทวีป โดยยุโรปตอนกลาง และยุโรปตะวันออก ถือเป็นแหล่งผลิตไวน์มานานนับพันปี และมีวัฒนธรรมการทำไวน์(viniculture) ที่เก่าแก่กว่าทางฝั่งยุโรปตะวันตก เทพเจ้าแห่งไวน์ของชาวกรีก หรือที่เรารู้จักในชื่อ “Bacchus” แท้จริงแล้วมีตำนานสืบเชื้อสายมาจากดินแดนที่เรียกว่า “เธรซ” หรือประเทศบัลแกเรียในปัจจุบันนั่นเอง ในขณะที่เพลโตเชื่อว่า ไวน์คุณภาพดีที่สุดมาจากประเทศโรมาเนีย
ในช่วงยุคที่สหภาพโซเวียตรุ่งเรืองอำนาจ สิ่งต่างๆหยุดการพัฒนาก้าวหน้า ไวน์ถูกผลิตออกมาในปริมาณมากจนกลายเป็นสินค้าที่มีเกรดต่ำ แต่หลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย ส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำ เกิดความไม่มั่นคงทางการเมือง และมีการสั่งห้ามไม่ให้ไร่องุ่นต่างๆสร้างผลผลิตเพื่อแข่งขันกับประเทศดั้งเดิมอื่นๆในยุโรป ดังนั้น วัฒนธรรมการทำไวน์ในภูมิภาคนี้ จึงยังดำเนินต่อไป และมีไร่องุ่นที่อุทิศเพื่อการผลิตไวน์ที่มีวินเทจดี ภูมิภาคแห่งนี้ยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่สำคัญของตลาดไวน์โลก โดยโรมาเนีย และฮังการีเป็นประเทศผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 และ 8 ของทวีปยุโรป ตามลำดับ
ตั้งแต่ประเทศโครเอเชียจรดประเทศจอร์เจีย เกือบทุกๆประเทศในยุโรปตะวันออกล้วนผลิตไวน์ทั้งสิ้น โดยไฮไล้ท์สำคัญมี ดังนี้
เริ่มต้นที่โครเอเชีย ประเทศที่ถูกตั้งฉายาให้เป็น “ไข่มุกแห่งยุโรปตะวันออก” ตั้งอยู่ใกล้ประเทศอิตาลี ที่นี่มีไร่องุ่นที่งดงามเรียบชายฝั่งทะเล ผลิตไวน์แดงรสชาติเข้มดุดัน และไวน์ขาวหอมๆแนวอโรมาติก องุ่นสายพันธุ์ท้องถิ่นของที่นี่ อย่าง Teran (หรือที่ชาวอิตาเลี่ยนเรียกว่า “Refosco”) มีปลูกนอกเหนือจาก Merlot และ Cabernet Sauvignon ชาวโครเอเชียมีพรสวรรค์ในเรื่องการทำไวน์ และยังเป็นผู้ริเริ่มวัฒนธรรมการปลูกไวน์ในเขตผลิตที่มีชื่อเสียงอย่าง Kumeu ในประเทศนิวซีแลนด์ อีกด้วย
ไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮังการี คือ ไวน์หวานที่มีชื่อว่า Tokaji อย่างไรก็ตาม นักทำไวน์ชาวฮังการีเริ่มหันมาผลิตไวน์ที่มีรสชาติดรายเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา โดยไวน์ขาวรสดรายที่มีคุณภาพดีที่สุดของที่นี่ ทำจากองุ่นสายพันธุ์ Furmint หรือไม่ก็เป็นการผสมร่วมกับองุ่นพันธุ์ Tokaji ส่วนไวน์แดงที่ดังที่สุด คงต้องยกให้ Egri Bikavér ซึ่งเกิดจากการผสมผสานระหว่างองุ่นสายพันธุ์ดั้งเดิมของท้องถิ่น กับองุ่นพันธุ์ยอดนิยมของตลาด
ประเทศจอร์เจีย มีชื่อเสียงมากในเรื่องการใช้ภาชนะที่เรียกว่า Kvevri ซึ่งเป็นโอ่งดินเผาฉาบขี้ผึ้ง คล้ายๆกับ Amphora ที่เรารู้จักกัน ใช้หมักไวน์ โดยไวน์จากจอร์เจียยังได้รับการยกย่องมากว่า เป็นไวน์ที่มีสไตล์การทำที่เก่าแก่ที่สุด และไม่ค่อยถูกแทรกแซงจากภาคธุรกิจ ในปัจจุบัน ไวน์แบบธรรมชาติดั้งเดิม เก่าแก่มาก ก็ยังคงมีผลิตอยู่
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงน้ำจิ้ม ยังมีไวน์ที่ผลิตจากประเทศในยุโรปตะวันออกอื่นๆ อีกเช่น โรมาเนีย, สโลวาเนีย, บัลแกเรีย, มอลโดวา, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, ตุรกี และยูเครน เป็นต้น หากไวน์จากฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน เริ่มจะดูมีราคาแพงเกินไปสำหรับคุณ ทำไมไม่ลองมองหาไวน์จากไร่องุ่นที่ถูกลืมเหล่านี้ มาลองจิบดูกันบ้างหละครับ
[เรียบเรียงจากบทความของ ALexander Eeckhout]