ถึงจุดนี้ ใครบ้างไม่รู้จักองุ่นสายพันธุ์ “นานาชาติ” อย่าง Cabernet Sauvignon, Merlot, และ Pinot Noir?

น้อยคน หรือแทบจะไม่มีคอไวน์คนไหนไม่รู้จักไวน์เหล่านี้ เพราะมันมีให้เราได้จิบอยู่เต็มท้องตลาด จำหน่ายตั้งแต่ในราคาเบาๆ จนถึงระดับพรีเมี่ยม บางฉลากกลายเป็นไวน์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

แต่หากคุณเป็นคนรักการผจญภัยในรสชาติ อยากลองไวน์ใหม่ๆที่ทำจากองุ่นสายพันธุ์แปลกๆ ควรเริ่มต้นจากอะไรดี?

ในบทความนี้ เรามี 5 สายพันธุ์องุ่นไวน์แดง ที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไร มาแนะนำให้คุณได้ไปลองหาชิมกัน

Vox Populi, Bobal ปี 2013

Utile-Requena เป็นแหล่งปลูกองุ่นสายพันธุ์ Bobal ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวักตกของจังหวัด Valencia ประเทศสเปน ที่นี่มีลักษณะภูมิอากาศร้อน และแห้ง ผลองุ่นที่ได้จึงมีรสชาติที่กำยำ เข้มข้น อิ่มด้วยอะโรม่าของเรดเคอแรนท์ และแบล็คเบอร์รี่ ซึ่งบ่งบอกได้ทันทีว่า มันจะเป็นไวน์ที่ไม่นุ่มนวลเหมือนไวน์หลายตัวอื่นๆ สัมผัสได้ถึงรสชาติที่สุกงอม และชุ่มฉ่ำของผลไม้สีน้ำเงินเข้ม และสีแดง ให้ความรู้สึกเต็มเปี่ยม พร้อมเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่ม สามารถแพริ่งได้เป็นอย่างดีกับเมนูประเภทเนื้อย่างต่างๆ

ระดับแอลกอฮอล์: 13%
ผู้ชิม: James Button

Roches Sèches, Les Essards Noirs ปี 2014

ไวน์ Jura เป็นไวน์ที่กำลังได้รับความนิยมสูง เพราะมันทำมาจากองุ่นสายพันธุ์แปลกใหม่ที่ปลูกในเขต Jura ใช้กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม เช่น ใช้เท้าในการบดผลองุ่น เป็นต้น สำหรับไวน์ Roches Sèches ฉลากนี้ ได้จากการหมักองุ่นทั้งพวง โดยองุ่นที่นำมาหมักเป็นองุ่นจากเถาว์องุ่นพันธุ์ Grolleau ซึ่งมีอายุ 50 ปี (ผ่านการรับรองแล้วว่าเป็นองุ่นที่ปลูกแบบออร์แกนิก) ที่พิเศษ คือ มันเป็นองุ่นของต้นองุ่นที่ผ่านการตัดแต่งกิ่งและผล ทำให้เถาว์ของมันสามารถลำเลียงอาหารไปเลี้ยงผลองุ่นได้มากขึ้น องุ่นเหล่านี้จึงมักมีรสชาติที่เข้มข้นเป็นพิเศษ

ผลลัพธ์ที่ได้คือ ไวน์ที่มีรสชาติความเข้มข้นของผลเชอร์รี่สีดำเข้ม ซ่อนโน้ตของดอกไวโอเลต และอะโรม่าของเมนธอล โดดเด่นด้วยรสที่ชุ่มฉ่ำ สัมผัสได้ถึงรสของเชอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่ มีความซับซ้อนของโน้ตดาร์กช็อคโกแลต, ชะเอม และต้นสนซีดาร์ มีแทนนินเป็นฉากหลังที่เปิดโอกาสให้โน้ตของผลไม้เผยคุณสมบัติได้อย่างชัดเจน ฝากรสชาติยาวนานไว้ที่ปลายสัมผัส มีผลิตเพียง 800 ขวดเท่านั้น

ผู้ชิม: James Button
ระดับแอลกอฮอล์: 12.5%

Domaine Pignier, Trousseau ปี 2015

เถาว์องุ่นที่ไร่ Pignier นำมาใช้ ผ่านการรับรองแล้วว่า เป็นเถาว์องุ่นที่ปลูกโดยใช้วิธีการแบบไบโอไดนามิก มาตั้งแต่ในปี 2003  ซึ่งแสดงให้เห็นว่า โรงไวน์แห่งนี้ให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคมาโดยตลอด องุ่นทั้งหมดผ่านการคัดแยก และเด็ดก้านโดยใช้แรงงานคนทั้งหมด ไม่ใช้เครื่องจักร สำหรับฉลากนี้ เป็นไวน์ที่ทำจากองุ่นสายพันธุ์ Trousseau หมักด้วยยีสต์ธรรมชาติ บ่มในถังไม้โอ๊กเป็นเวลา 12 เดือน ก่อนถูกนำมาบรรจุลงในขวด มันเป็นไวน์ที่ไม่ผ่านกระบวนการกรอง ใช้สารซัลเฟอร์ในปริมาณที่น้อยที่สุด มาพร้อมกลิ่นหอมจางๆของผลแครนเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ แทรกโน้ตเครื่องเทศ ให้รสชาติที่สดชื่น ซ่อนโน้ตของผลไม้สีแดง, เนื้อสัตว์ป่า และแอซิดิตี้ที่สดใสซึ่งเป็นคุณสมบัติของไวน์ Pinot เหมาะทานคู่กับเมนูเนื้อเป็ด หรือชีส

ผู้ชิม: James Button
ระดับแอลกอฮอล์: 13.5%

Bouchon Family Wines, País Salvaje ปี 2016

ไวน์แดงฉลากนี้ ทำจากองุ่นป่าสายพันธุ์ País ซึ่งขึ้นอยู่ทั่วในไร่องุ่นของ Bouchon Family องุ่นสายพันธุ์นี้มาเลื้อยขึ้นอยู่ตามต้นไม้ และแปลงผัก โดยทั่วไปมีความสูงประมาณ 5 เมตร ครึ่งหนึ่งของไวน์ฉลากนี้ใช้กระบวนการหมักแบบคาร์บอนิก ส่วนอีกครึ่งหนึ่งหมักตามวิธีปรกติโดยอาศัยยีสต์ตามธรรมชาติ บ่มในถังคอนกรีต ก่อนนำมาบรรจุลงขวดโดยไม่ผ่านกระบวนการกรอง มาพร้อมอะโรม่าของเชอร์รี่สมุนไพร และราสพ์เบอร์รี่  ซ่อนโน้ตของครีม ในขณะเดียวกัน ก็ให้รสชาติของน้ำองุ่นที่ชัดเจน ผสมเซนส์ของผลเชอร์รี่สีดำและสีแดง มีความชุ่มฉ่ำ และแอซิดิตี้ที่กำลังดี

ผู้ชิม: James Button
ระดับแอลกอฮอล์: 12%

เรียบเรียงจากบทความเดิมบนเว็บไซต์ http://www.decanter.com