ผ่านไปแล้วกับงานดีๆ คอนเซ็ปต์สวยๆ สำหรับคนรักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม “Courageous Bangkok” ซึ่งจัดขึ้นที่ The House on Sathorn เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
หากงานนี้เปรียบได้กับการออกทัพจับศึก ผมยินดีอาสาออกรบแถวหน้ากันเลยทีเดียว โดยมีอาวุธครบมือเป็นส้อม และแก้วไวน์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่ก็ไม่เป็นพิษภัยต่อสิ่งแวดล้อม
กวีชื่อดังอย่าง Hemingway เคยกล่าวไว้ว่า ความกล้าหาญ คือ ความงดงามภายใต้แรงกดดัน… แต่งานอาหารแนว sustainable food ในครั้งนี้ เต็มไปด้วยความงดงามที่เน้นทั้งความอร่อย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และไม่ทำลายระบบนิเวศ
อาหารต่างๆที่ถูกนำมาเผยรสชาติในงาน ยกตัวอย่างเช่น สุดยอดหอยนางรมญี่ปุ่น Kumamoto จากร้าน THEOYSTERBAR, แซลมอนทาร์ทาร์จากร้าน Eat Me, ปลาแบล็คค็อดราดเนย จากร้าน Bunker, แก้มหมูสุดนุ่มที่เสิร์ฟพร้อมถั่วปากอ้ารสเลิศ จากร้าน Appia และอื่นๆอีกเพียบ
คงไม่ผิดนักถ้าจะกล่าวว่าไฮไลท์สำคัญของงานนี้ คือ อาหาร การมีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติอาหารจากสุดยอดร้านอาหารดังจากทั่วกรุงเทพถือว่าเป็นประสบการณ์ที่วิเศษมากจริงๆ ไม่มีเมนูจานไหนเลยที่มีรสชาติน่าผิดหวัง ทุกร้านสามารถรังสรรค์เมนูของพวกเขาออกมาได้อร่อยสมกับชื่อเสียง และคำร่ำลือจริงๆ
นอกจากอาหารแล้ว ภายในงานยังจัดเสิร์ฟเครื่องดื่มอีกด้วย ซึ่งที่พลาดไม่ได้ ก็คือ ไวน์นั่นเอง โดยมีบริษัทผู้นำเข้าไวน์ชั้นนำของไทยนำไวน์ฉลากเด็ดต่างๆนานามาออกแสดงให้เราได้เทสต์กันในงาน ไม่ว่าจะเป็นไวน์จาก Wine Garage, Be:Spoke Fine Wine และ Wine gallery นอกจากไวน์แล้ว ก็ยังมีคราฟท์เบียร์ ซึ่งนำทัพมาโดย Beervana และก็ยังมี Aperol ซึ่งนำสปริตซ์มาดับกระหายผู้เข้าร่วมงานได้เป็นอย่างดี ในส่วนของเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ทางบริษัท ไร่ทอง ออร์แกนิกส์ ฟาร์ม ได้นำจินเจอร์เบียร์ออร์แกนิคไร้แอลกอฮอล์ของพวกเขามาแนะนำในงานอีกด้วย
งานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก บัตรเข้างานสามารถขายหมดภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ผู้เข้าร่วมงานเยอะจนทำให้ทางโรงแรม W Hotel ต้องทำอาหารออกมาเพิ่มเป็นพิเศษตั้งแต่เริ่มงานจนจบงาน ที่สังเกตได้ชัด คือ ดูเหมือนจะมีเมนูหอยนางรมออกเสิร์ฟเยอะมากเกินไปสักนิดนึง ส่วนผู้เข้าร่วมงานก็เยอะมากจนทำให้ร้านดัง อย่าง Gaggan แทบจะหาที่วางป้ายหน้าร้านไม่ได้เลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ของงานนี้ คือ เพื่อส่งเสริมปรัชญาการผลิตอาหารแบบยั่งยืน แต่เท่าที่สังเกตดู นอกจากอาหารแนว sustainable food แล้ว ก็ไม่ค่อยมีนวัตกรรมอะไรอื่นๆให้ตื่นตาเท่าที่ควร มีแต่เพียงเครื่องปั่นอาหารที่ใช้พลังงานจากการปั่นจักรยาน(bicycle-powered blender)เท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร เพราะอาหารภายในงานวิเศษมาก สถานที่จัดก็สวยงาม ผู้เข้าร่วมงานทุกคนดูมีความสุข แถมมีดนตรีเพราะๆให้ฟัง เครื่องดื่มก็อร่อย ถือเป็นงานช่วงบ่ายที่ลงตัว และคุ่มค่าที่จะจัดอีกครั้งครับ