อย่างที่นักเขียนชาวอังกฤษท่านหนึ่ง ชื่อ P.G. Wodehouse กล่าวไว้ “ทุกเรื่องที่ตลกขบขันในชีวิต มักขัดกับศีลธรรม, ผิดกฎหมาย และทำให้คุณอ้วน” โชคดีที่ไวน์ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ยกเว้นคุณไปขโมยไวน์ของใครเขามา โชคร้ายที่ผมพูดได้ไม่เต็มปากว่า ไวน์จะไม่ทำให้คุณอ้วน! เพราะไวน์ประกอบไปด้วยแคลอรี ซึ่งสามารถเปลี่ยนรูปกลายเป็นไขมันได้ แต่คำถาม คือ ไวน์มีปริมาณแคลอรีมากแค่ไหน?

ไวน์หนึ่งแก้วประกอบไปด้วยปริมาณแคลอรี 110 – 300 แคลอรี โดยแต่ละฉลากก็มีปริมาณแคลอรีแตกต่างกันไป แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ฉลากไหนมีแคลอรีมากเท่าไร?

ไวน์ประกอบไปด้วยน้ำ, น้ำตาล และแอลกอฮอล์ น้ำไม่มีแคลอรี ส่วนน้ำตาล และแอลกอฮอล์มี โดยแอลกอฮอล์จะมีปริมาณแคลอรีมากกว่าน้ำตาล กล่าวคือ แอลกอฮอล์ 1 กรัม ประกอบไปด้วย 7 แคลอรี ส่วนน้ำตาล 1 กรัมจะประกอบไปด้วย 4 แคลอรี ดังนั้น ไวน์หวานจึงไม่จำเป็นต้องมีปริมาณแคลอรีสูงกว่าไวน์ที่มีรสชาติดรายเสมอไป โดยทั่วไปแล้ว ไวน์รสดรายจะมีแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 11%- 14% แต่บ่อยครั้ง เรามักจะพบว่า มันมีปริมาณเกินกว่า 15% โดยไวน์รสดรายหนึ่งแก้วในปริมาณ 180 มล. จะมีปริมาณแคลอรีอยู่ที่ 175 แคลอรี

ไวน์หวานที่มีแอลกอฮอล์สูง อย่างเช่น พอร์ตไวน์ จึงมีปริมาณแคลอรีที่สูงตามไปด้วย ในการทำพอร์ตไวน์ จะมีการใส่เหล้าองุ่นที่เป็นนิวทรัลสปิริต(neutral grape spirit)เพิ่มลงไป เพื่อหยุดการทำงานของยีสต์ ทำให้มีตะกอนน้ำตาลที่ยังไม่เปลี่ยนรูปเป็นแอลกอฮอล์หลงเหลืออยู่ พอร์ตไวน์มักมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 20% และมีตะกอนน้ำตาลประมาณ 100 ก./ลิตร พอร์ตไวน์หนึ่งแก้ว หรือประมาณ 60 มล. จะมีปริมาณแคลอรีอยู่ที่ 103 แคลอรี

ในการทำแชมเปญ และสปาร์กลิ้งไวน์ จะมีการใส่น้ำตาลเพิ่มลงไปในกระบวนการผลิต โดยอาจจะใช้มากถึง 50 ก./ลิตร อย่างไรก็ตาม สปาร์กลิ้งไวน์ส่วนใหญ่มักมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างต่ำ จึงทำให้มีปริมาณแคลอรีต่ำลงไปด้วย โดยแชมเปญ 1 แก้ว หรือประมาณ 150 มล. จะมีปริมาณแคลอรีอยู่ที่ 120 แคลอรี

สูตรในการคำนวณปริมาณแคลอรีในไวน์หนึ่งแก้ว มีดังนี้

คำนวณปริมาณแคลอรีน้ำตาล คือ ระดับน้ำตาล x ขนาดแก้ว (ใช้หน่วยลิตร) x 4 พักไว้ แล้วมาคำนวณปริมาณแคลอรีแอลกอฮอล์ คือ  ขนาดแก้ว (ใช้หน่วยกรัม) x แอลกอฮอล์เปอร์เซ็น x 7 หลังจากนั้น นำค่าทั้ง 2 มารวมกัน ก็จะได้ปริมาณแคลอรีทั้งหมดต่อไวน์หนึ่งแก้ว

สำหรับคนที่อยากรู้ปริมาณแคลอรี แต่ขี้เกียจคำนวณ แนะนำให้แบ่งจิบกับเพื่อน เพราะการจิบไวน์เบาๆกับเพื่อน ย่อมฟินกว่าจิบหนักๆคนเดียวเสมอครับ

[เรียบเรียงจากบทความของ Alexander Eeckhout]