ราชนาวีอังกฤษกับเรื่องดื่มๆ
Lifestyle
ราชนาวีอังกฤษกับเรื่องดื่มๆ

ถ้าวันทำงานของคุณเป็นแบบดังต่อไปนี้ คุณจะว่ายังไง?

ตอนเช้า ถึงที่ทำงาน เริ่มนั่งเก้าอี้ทำงาน ต่อมาช่วงสายๆ เจ้านายใหญ่เรียกให้พนักงานทุกคนมายืนเรียงแถวพร้อมแก้วส่วนตัวคนละหนึ่งแก้ว เจ้านานเดินเข้ามาพร้อมขวดเหล้ารัมชนิด Extra Strong ขนาด 3 ลิตรเข้ามาด้วย และบอกเตือนผู้จัดการออฟฟิสว่า ขวดที่มีอยู่ใกล้หมด และให้เขาสั่งซื้อขวดใหม่ได้แล้ว หลังจากนั้น เจ้านายใหญ่ก็เริ่มรินเหล้ารัมใส่แก้วให้พนักงานทุกคนดื่ม หลังจากกระดกหมดแก้ว ทุกคนจึงสามารถกลับไปนั่งทำงานได้ตามปกติ

สำหรับบางคนแล้ว ธรรมเนียมปฏิบัตินี้อาจฟังดูเป็นลาภปาก แต่สำหรับบางคน อาจดูขาดความรับผิดชอบไปสักหน่อย เพราะเหล้าอาจมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้

แต่ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ ไม่สำคัญ เพราะธรรมเนียมปฏิบัตินี้เคยเกิดขึ้นแล้วในราชนาวีอังกฤษ เป็นระยะเวลาประมาณ 200 ปี จนกระทั่งถึงช่วงปี 1970 จึงได้มีการยกเลิกไป

pirate vs navy

ธรรมเนียมนี้จริงๆแล้วเริ่มต้นจากการอนุญาตให้ทหารเรืออังกฤษทุกคน ทานเบียร์ได้มากถึงคนละ 8 แก้วต่อวัน ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ในการล่องเรือเป็นเวลานานๆ เบียร์สามารถเก็บได้นานกว่าน้ำ น้ำธรรมดาที่เก็บไว้นานๆอาจเกิดการเสียได้ และจึงไม่ปลอดภัยสำหรับดื่มกิน ธรรมเนียมนี้จึงได้มีการปฏิบัติกันมาจนกระทั่งศตวรรษที่ 17th โดยบางครั้ง หากเบียร์หมด พวกเขาจะหันมาดื่มเครื่องดื่มหมักอื่นๆแทน เช่น ไวน์และ บรั่นดี เป็นต้น

แต่ต่อมา เมื่อสหราชอาณาจักรเริ่มขยายดินแดนไปไกล ไปทางประเทศเขตร้อนต่างๆ เรือลาดตระเวนจึงจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น และจำนวนทหารราชนาวีบนเรือก็มีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้มีการยกเลิกธรรมเนียมการดื่มเบียร์แทนน้ำไป ทั้งนี้เป็นเพราะอากาศร้อนจะทำให้เบียร์เสียเร็วขึ้น อีกทั้งปริมาณเบียร์ที่มีไม่เพียงพอสำหรับจำนวนทหารเรือที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เหล้ารัมจึงกลายมาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมันเป็นเครื่องดื่มที่จะไม่บูดเสีย แถมยังมีรสชาติแรง ซึ่งทำให้ไม่เหมาะสำหรับบริโภคในปริมาณๆมากเหมือนเบียร์ได้ โดยทหารเรืออังกฤษในเวลานั้น ถูกกำหนดให้ดื่มเหล้ารัมครึ่งแก้ว วันละ 2 รอบ โดยมีข้อแม้ว่า เหล้ารัมนั้นจะต้องมีรสชาติแรง หรือมีแอลกอฮอล์สูงพอ ซึ่งพวกเขาทำการทดสอบระดับแอลกอฮอล์ของเหล้ารัมโดยการนำไปผสมกับดินปืนและจุดไฟ หากจุดไฟไม่ติด ก็ยังถือว่าเหล้ารัมนั้นยังไม่แรงพอ ปริมาณแอลกอฮอล์ที่แรงพอจะทำให้จุดไฟติดได้ จะอยู่ที่ 57.15%

rum casks

ต่อมาไม่นานหลังจากนั้น ปัญหาที่เกิดจากความมึนเมาของทหารเรือก็เกิดขึ้น และนั่นเป็นเหตุให้ในปี 1740 แม่ทัพเรือ Edward Vernon คิดวิธีแก้ปัญหา โดยสั่งให้มีการผสมน้ำดื่ม 2 แก้วลงในเหล้ารัมครึ่งแก้วก่อนดื่ม บางครั้งพวกเขาเพิ่มรสชาติด้วยการผสมน้ำส้มลงไปด้วย แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เหล่าทหารเรือไม่เมาได้ จนกระทั่งในปี 1950 ปริมาณของเหล้ารัมที่อนุญาตให้ดื่มได้ต่อวัน ถูกลดลดเหลือเพียง 1/4 ของแก้วเท่านั้น ก่อนที่ธรรมเนียมปฏิบัตินี้จะถูกยกเลิกในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1970 เมื่อรัฐบาลอังกฤษได้ออกกฎสั่งห้ามไม่ให้บุคคลใดก็ตามที่ถืออาวุธอยู่ในครอบครองบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใดๆทั้งสิ้น

เรียบเรียงจากบทความของ Alexander Eeckhout