ค็อกเทลมีความเก่าแก่กว่าที่คนส่วนใหญ่คิด…
David Wondrich นักประวัติศาสตร์ด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท่านหนึ่ง อ้างว่า ค็อกเทลเป็นเครื่องดื่มที่ถูกคิดค้นขึ้นในกรุงลอนดอน โดยนักเภสัชกรชาวอังกฤษผู้หนึ่งในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดยเขาแนะนำให้ทานบิทเทอร์ (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเรียกน้ำย่อยชนิดหนึ่ง หรือที่เรียกว่า aperitif) ซึ่งในขณะนั้นถือว่า “เป็นยารักษาโรค” โดยผสมกับบรั่นดี หรือไวน์
ต่อมา การผสมบิทเทอร์กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในช่วงกลางปี 1700 และประวัติของค็อกเทลก็ได้ก่อตัวขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ประวัติความเป็นมาของคำว่า “ค็อกเทล” ยังเป็นที่ถกเถียงกันมาจนถึงทุกวันนี้ หลายคนยังเชื่อว่า คำว่า “ค็อกเทล” จริงๆแล้วเป็นศัพท์ที่คิดค้นขึ้นโดยชาวอเมริกัน ในขณะที่อีกหลายคนเชื่อว่า มันน่าจะมาจากคำว่า “coquetier” ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ถ้วยไข่ต้ม… ซึ่งประวัติในส่วนนี้เริ่มต้นจากที่ มีนักเภสัชกรผู้หนึ่งจากนิวออร์ลีนส์ ชื่อว่า Antoine Amédée Peychaud เขาได้ผสมบิทเทอร์กับบรั่นดี แล้วเสิร์ฟใส่ถ้วยไข่ต้มให้ลูกค้าของเขาทาน ต่อมา คำว่า “Coquetier” ได้แผลงมาเป็น “cocktay” และ cocktail ตามลำดับ
อีกหนึ่งทฤษฎีคือ คำว่า cocktail จริงๆแล้วน่าจะมาจากคำว่า “cock tailings” ซึ่งหมายถึง วิธีการนำหางเหล้า หรือเศษแอลกอฮอล์ที่ติดอยู่ที่ก้นถังที่ใช้ในการหมักเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาผสมรวมเข้าไว้ด้วยกัน แล้วนำออกมาขายในราคาถูกๆ
บางความเชื่อเล่าว่า คำว่า ค็อกเทล น่าจะมาจากคำว่า “coquetel” ซึ่งเป็นชื่อเครื่องดื่มผสมชนิดหนึ่งจากเขตบอร์โดในประเทศฝรั่งเศส โดยมีทหารชาวฝรั่งเศสเป็นผู้นำเครื่องดื่มผสมชนิดนี้เข้ามาในอเมริกาในช่วงยุคปฏิวัติอเมริกา
บ้างก็เล่าว่า มีกลาสีเรือชาวอังกฤษคนหนึ่งได้ไปพบเหล้าผสมชนิดหนึ่งในประเทศเม็กซิโก ซึ่งมีรสชาติดี โดยในการปรุงเหล้าชนิดนี้จะต้องคนด้วยรากไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “cola de gallo” ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า cock’s tail นั่นเอง
แต่ไม่ว่าเรื่องเล่าขาน ความเชื่อเหล่านี้จะฟังดูน่าสนุกตื่นเต้นแค่ไหน มันก็ยังฟังดูไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไร หลังจาก Wondrich ได้ไปพบอีกเรื่องราวหนึ่ง ที่ฟังดูน่าเชื่อถือมากกว่า บนหนังสือพิมพ์อังกฤษย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยในหนังสือพิมพ์เขียนไว้ว่า คำว่า “cock-tail” จริงๆแล้วเป็นชื่อเรียกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง ที่ทำจากขิง และพริกไทย ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเพิ่มพลัง หรือในสำนวนภาษาอังกฤษเรียกว่า to cock one’s tail – โดยคำว่า “cock-tail” ยังเป็นการอุปมาอุปไมยง่ายๆในเรื่องการผสมพันธ์ม้า กล่าวคือ นักเพาะพันธุ์ม้าบางราย เลือกที่จะใช้วิธียัดขิงใส่ในทวาร หรือบั้นท้ายของม้า เพื่อกระตุ้นให้ม้าเกิดความรู้สึกมีชีวิตชีวิตชีวา ดูกระปรี้กระเปร่า ผู้ซื้อมักจะเลือกซื้อม้าที่ดูสดใสร่าเริงมาไว้ในครอบครอง ดังนั้น เครื่องดื่มเพิ่มพลังใดๆที่มีขิง และพริกไทยเป็นส่วนผสม จะถูกเรียกทันทีว่า “ค็อกเทล”
Wondrich ยังได้กล่าวต่อว่า สูตรเครื่องดื่มชนิดนี้ถูกส่งต่อกันมาเรื่อยๆ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก จนข้อมูลส่วนผสมเริ่มถูกจำสับไปสับมา จากคำว่า ginger และ pepper กลายมาเป็นบิทเทอร์ ทำให้ทฤษฎีของเขาเริ่มขาดความน่าเชื่อถือลงไป แต่ก็ยังคงเป็นเป็นทฤษฎีที่ฟังดูสมเหตุสมผลที่สุด
แล้วคุณหละ คิดว่ายังไง?
[เรียบเรียงจากบทความของ Alexander Eeckhout]