เรียบเรียงจากบทความของ Alexander Eeckhout
เราเขียนบทความเกี่ยวกับวงการคราฟต์เบียร์ในเมืองไทยไปบ้างแล้ว คราวนี้ถึงคราวเครื่องดื่มประเภทเหล้ากันบ้าง… แน่นอน ใครบ้างไม่รู้จัก แสงโสม, หงษ์ทอง และที่พลาดไม่ได้ คือ Johnnie Walker ซึ่งนิยมดื่มกันอย่างแพร่หลายตามงาน และคลับบาร์ต่างๆ แต่สินค้าเหล่านี้กำลังจะเริ่มจืดชืดไปเสียแล้ว..
ปัจจุบัน วงการเครื่องดื่มประเภทเหล้าเบียร์เริ่มน่าตื่นเต้นมากขึ้นมากขึ้น เรามีค็อคเทลที่มีความหลากหลาย สีสัน และหน้าตาที่น่าสนใจเยอะขึ้น รวมไปถึงสปิริตต่างๆที่ถูกนำมาใช้ทำค็อคเทลต่างๆ ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน โรงกลั่นเหล้าของไทยจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
คนไทยเป็นชนชาติที่มีศิลป์ มีฝีมือ ไม่เว้นแม้แต่ในเรื่องเครื่องดื่ม และอาหารการกิน โดยพรสวรรค์เหล่านี้มีอยู่ในสายเลือดของคนไทย เมื่อคราฟต์เบียร์เริ่มเป็นที่นิยม พวกเขาก็เริ่มคิดค้นวิธี และผลิตมันขึ้นมาเองโดยไม่แคร์กฏหมายใดๆ เช่นเดียวกับเหล้า ปัจจุบันมีสปิริตคุณภาพเยี่ยมที่ผลิตโดยคนไทย และวางจำหน่ายแล้วตามคลับบาร์ และซูเปอร์มาร์เก็ต โดยหนึ่งในนั้น คือ ลไมย์(Lamai Thai Rum)
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ Alex Chou หนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจเหล้ารัมไทยแห่งนี้ คุณ Alex เคยทำงานให้กับบริษัทผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศไทยมาก่อน โดยเขามีส่วนร่วมในการผลักดันการผลิตสินค้าอาหารและเครื่องดื่มของไทยมาโดยตลอด และต่อมาได้ตัดสินใจออกมาร่วมธุรกิจกับญาติชาวไทยของเขา คือ คุณ Kaustav Bagchi และ Chris Sabdasen ซึ่งหันมาเริ่มจับธุรกิจด้านการผลิตเหล้ารัม
Lamai Thai Rum เป็นสปิริตที่ทำจากอ้อยที่ปลูกในประเทศไทย 100% ภายใต้ “ใบอนุญาตทำและขายสุรากลั่นชุมชน”(village distillery license) ซึ่งอนุญาตให้โรงกลั่นในชุมชนสามารถผลิตเหล้าใส หรือ “white spirits” ได้เอง
ปัจจุบัน Lamai Thai Rum ยังเป็นสินค้าที่ได้รับรางวัล และมีวางจำหน่ายตามคลับบาร์ดีๆในกรุงเทพฯ ตลอดจนในร้านค้าชั้นนำอย่าง วิลล่ามาร์เก็ต และร้าน King Power เป็นต้น สินค้าตัวล่าสุด อย่าง Lamoon Rum ถึงแม้จะยังไม่มีวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่คุณก็สามารถหาจิบได้แล้วตามค็อคเทลบาร์ และร้านอาหารชื่อดัง อย่าง WTF และ Seven Spoons
ถัดจาก Lamai Thai Rum คุณ Alex ยังได้เริ่มธุรกิจโรงกลั่นสุราที่มีชื่อว่า Bespoke เป็นโรงกลั่นฝีมือชุมชน ที่เน้นผลิตเหล้าสปิริตตามสั่งของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร และบาร์ระดับไฮเอ็นต่างๆ ไม่เพียงเท่านี้ Bespoke ยังมีความมุ่งหมายที่จะผลิตสินค้าสปิริตที่มีสีน้ำตาล(brown spirits) เพื่อตอบสนองความต้องการจากลูกค้าจำนวนมากในภูมิภาคแห่งนี้อีกด้วย
เป้าหมายทางธุรกิจของคุณ Alex คือ การออกแบบรสชาติของเครื่องดื่มที่มีความลึกล้ำ หลากหลาย และให้ผู้บริโภคมีความสุขสนุกสนานกับการดื่มของพวกเขาอีกด้วย นี่คือสิ่งที่เราขอยกย่อง และให้กำลังใจ โชคดีดีที่ไม่เพียงแต่คุณ Alex เท่านั้นที่มีความมุ่มมั่นแบบนี้ แต่ผู้ผลิตรายอื่นๆ อย่าง หมาใจดำ(Maa Jai Dum) Koh Samui Rum และฉลองเบย์ รัม (Chalong Bay Rum) ก็มีเป้าหมายในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน
จากที่กล่าวมา ดูเหมือนว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพในการผลิตเหล้ารัมที่มีคุณภาพ แต่เราก็ได้แต่ภาวนาว่า ผู้ออกกฎหมายจะมองเห็นศักยภาพนี้แบบเดียวกับเรา มันอาจจะถึงเวลาแล้วที่เราควรทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางแห่งรสชาติอันเลิศล้ำ