เพราะแอลกอฮอล์อยู่คู่โลก คู่เรา มานานแสนนาน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากจะมีนักดื่มบางคนเคยได้สร้างผลงานอันโดดเด่นให้กับประวัติศาสตร์โลกมาแล้ว ไปดูกันว่า คนดังนักดื่มในประวัติศาสตร์เหล่านั้นมีใครกันบ้าง?

บัซ อัลดริน

ย้อนกลับไปในยุค 60 หลายคนคุ้นชื่อของนีล อาร์มสตรอง ในฐานะมนุษย์คนแรกที่ได้เดินทางไปเหยียบดวงจันทร์ แต่น้อยคนที่รู้ว่า ยังมีชายคนสำคัญอีกคนหนึ่งที่ร่วมเดินทางไปกับ นีล อาร์มสตรอง ในยานอวกาศลำนั้นด้วย เขาคนนั้นคือ บัซ อัลดริน ในปี 1976 เขาออกมาเผยกับผู้ชมคนหนึ่งว่า เขาเป็นคนติดเหล้า โดย 2 วันก่อนหน้าที่เขาจะขึ้นไปกับยาน Apollo 11 ในปี 1969 เขาก็ยังดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วยซ้ำ

หลังจากกลับจากภาระพิชิตดวงจันทร์ในครั้งนั้น เขาก็ยังคงมีปัญหาในการดื่มเหล้า และได้ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่เขาออกจาก NASA และส่งผลให้เขาต้องยุติชีวิตการแต่งงาน 21 ปี ในปี 1978 เขาตัดสินใจเข้ารับการบำบัด และเริ่มมีอาการดีขึ้นตั้งแต่นั้นมา

Vincent Van Gogh

ในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ศิลปินชาวดัตช์ในช่วงยุคโพสต์-อิมเพรสชันนิสม์ผู้นี้ สามารถขายภาพวาดได้เพียง 2 ชิ้นเท่านั้น โดยผู้ที่ซื้อคือน้องชายของเขาเอง เขามีชีวิตที่ต้องทนทุกข์ทรมาน แต่ยังเป็นทั้งอัจฉริยะ และนักดื่มผู้อื้อฉาว แอลกอฮอล์แก้วโปรดของเขา คือ เหล้าแอ๊บแซ๊งธ์(absinthe) หรือที่เรียกกันว่า “เทพธิดาสีเขียว” นั่นเป็นเพราะมันมีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนได้

แวนโก๊ะ ต้องทนทุกข์อยู่กับภาวะวิตกกังวล และอาการป่วยทางจิต โดยเขาเชื่อว่าการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เขากลายเป็นคนบ้า ในจดหมายที่เขาเขียนให้กับน้องชาย เขายังได้กล่าวถึงแอลกอฮอล์ว่า “…เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ฉันเป็นคนบ้า”

วินสตัน เชอร์ชิล

เขาผู้นี้ คือ มหาบุรุษที่หลายคนยกย่องชื่นชมในเรื่องของระเบียบวินัยและการเลิกเลิกบุหรี่ วินสตัน เชอร์ชิล ใช้เวลาทั้งชีวิตทำงานเพื่อสหราชอาณาจักร โดยยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับ 3 กระทรวงสำคัญของกองทัพอังกฤษ เขาหลอมรวมประชาชนชาวอังกฤษให้เป็นหนึ่งเดียว และสามารถสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และโซเวียต ดูแลกิจการต่างๆทั้งเรื่องสังคม และการทหารจนได้รับความชื่นชมไปทั่วโลก หลายคนจึงอยากรู้ว่า มหาบุรุษท่านนี้มีรสนิยมในการดื่มแอลกอฮอล์อย่างไร

ในแต่ละวัน เชอร์ชิลเริ่มต้นการทำงานด้วยการดื่มวิสกี้ผสมโซดาหนึ่งแก้ว พร้อมตรวจดูเอกสารประจำวันของเขา หลังลุกจากเตียง เขาจะออกไปทานมื้อกลางวัน โดยทานคู่กับแชมเปญและบรั่นดี ตกบ่าย เขาเลือกที่จะจิบบรั่นดีแก้วสองแก้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และแก้ไขปัญหาต่างๆทางการทูต ในช่วงมื้อค่ำ เขาจะจิบด้วยไวน์, สก๊อตวิสกี้และเหล้ายิน ปิดท้ายก่อนเข้านอนด้วยเครื่องดื่มเดียวกันกับที่เขาใช้จิบเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ นั่นคือ วิสกี้ผสมโซดา

อเล็กซานเดอร์มหาราช

อเล็กซานเดอร์มหาราช คือ ผู้บัญชาการกองทัพมาซิโดเนีย ที่ทำสงครามเอาชนะยึดดินแดนส่วนใหญ่ของโลก เขาค้นพบดินแดน และวัฒนธรรมใหม่ๆมากมาย และสามารถทำสงครามยึดครองดินแดนเหล่านั้นมาได้ สิ่งหนึ่งที่คล้ายกับเชอร์ชิล คือ เขามักจะทำงานเวลาได้ดื่มแอลกอฮอล์ โดยเขาสามารถดื่มไวน์ที่มีดีกรีเข้มได้ตลอดเวลาในระหว่างวัน แม้แต่ในเวลาออกรบ

ที่งานปาร์ตี้หนึ่งในเมืองซาร์มาคัน อเล็กซานเดอร์ดื่มแอลกอฮอล์ และเมามาก จนได้สังหารเพื่อนรักคนหนึ่งของเขา ซึ่งเพื่อนคนนี้ได้ช่วยชีวิตเขาในสนามรบ และเหตุการณ์นี้ คือหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่นำมาสู่จุดจบในอำนาจ และการล่มสลายของอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของเขา อเล็กซานเดอร์เศร้าโศกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และดื่มหนักมากขึ้นตั้งแต่นั้นมา สาเหตุการตายที่แท้จริงของอเล็กซานเดอร์ยังไม่มีใครทราบ แต่หลายคนเชื่อว่า เขาตายเนื่องจากสภาวะล้มเหลวของตับ

บอริส เยลต์ซิน

บอริส เยลต์ซิน คือ ผู้นำรัสเซียคนเดียว นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ที่ได้รับความนิยมชมชอบจากต่างประเทศ เขาคือนักดื่มที่มีอัธยาศัยดี อบอุ่น และดูมีความสุข และสามารถทำให้ทุกคนหลงเสน่ห์เขาได้

บิล คลินตัน เคยเล่าเรื่องราวจากบันทึกความทรงจำของเขาในหนังสือซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 2009 ว่า เยลต์ซินเคยต้องพบกับเรื่องน่าอายมากครั้งที่เขาเคยได้เดินทางมาเยือนทำเนียบขาวในปี 1995 โดยมีคนพบเขานุ่งกางเกงชั้นในอยู่ด้านนอกของทำเนียบขาว ขณะพยายามที่จะหารถแท็กซี่เพื่อออกไปหาพิซซ่าทาน ต่อมาในวันรุ่งขึ้น เขาดื่มจนเมาอีกครั้งและหายตัวไป จนกระทั่งมีตัวแทนหน่วยสืบราชการลับได้ไปพบเขาเดินเมาดุ่มๆอยู่บริเวณห้องใต้ดินในบริเวณที่พักของทำเนียบขาว และเข้าใจผิดว่าเป็นผู้บุกรุก คุณสามารถค้นหาเรื่องตลกๆอีกมากมายเกี่ยวกับเยลต์ซินได้ตามเว็บไซต์ต่างๆและ YouTube

บางทีคนดังเหล่านี้ อาจจะไม่ได้ดังหรือมีชื่อเสียงขึ้นมาได้เพราะว่าดื่มแอลกอฮอล์ แต่เป็นเพราะพวกเขาเป็นบุคคลที่มีความสามารถจริงๆ และอาจจะมีโชคเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยบ้างต่างหาก

[เรียบเรียงจากบทความของ by Alexander Eeckhout]