เมื่อเข้าใกล้หน้าหนาว นั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ฤดูเก็บเกี่ยวผลองุ่นตามโรงไวน์ต่างๆในประเทศไทยใกล้มาถึงแล้ว เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม เรื่อยไป จนถึงเดือนกุมภาพันธ์
สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับการปลูกองุ่นในประเทศไทย ผมขอสรุปให้ฟังดังต่อไปนี้ ในการเพาะเลี้ยงองุ่นในประเทศไทย การตัดแต่งกิ่งองุ่นจะทำ 2 ครั้งต่อ 1 รอบการปลูก ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “double pruning” ในการตัดกิ่งครั้งแรก จะเริ่มขึ้นหลังจากองุ่นถูกเก็บเกี่ยวในเดือนมกราคม โดยต้นองุ่นจะถูกทิ้งไว้ระยะหนึ่ง ก่อนทำการตัดกิ่งองุ่นครั้งแรก ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมเถาองุ่นให้พร้อมสู้กับฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง หลังจากนั้น การตัดแต่งกิ่งองุ่นครั้งที่สองจะเริ่มทำในช่วงต้นฤดูหนาว เพื่อให้ต้นองุ่นให้ผลผลิตเป็นที่ต้องการในเดือนมกราคม
ปัจจุบัน มีโรงไวน์ 6 แห่งที่เป็นสมาชิกในสมาคมไวน์ไทย หรือ Thai Wine Association โรงไวน์เหล่านี้มีศักยภาพในการบดองุ่นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ตัน หรือคิดเป็นไวน์ 800,000 ขวดต่อปี ไวน์ทั้งหมดอาจทำจากองุ่นที่ปลูกเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ถ้าไวน์ขวดไหนมีการนำองุ่นนำเข้ามาใช้ จนปริมาณการใช้องุ่นไทยมีระดับต่ำกว่า 90% ข้อมูลนี้ต้องแสดงบนฉลาก แต่เอาเข้าจริง ผมก็ยังไม่เคยทานไวน์ไทยขวดไหนที่ใช้องุ่นนำเข้าเลย
มีโรงไวน์หลายแห่งในประเทศไทย ที่คุณสามารถเดินทางไปกลับได้ด้วยรถยนต์ หรือแม้แต่ไปเที่ยวพักค้างคืนได้
ไร่องุ่น GranMonte ตั้งอยู่ในอโศกวัลเลย์ อยู่ติดอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ห่างจากกรุงเทพเพียง 160 ก.ม. หรือขับรถจากกรุงเทพประมาณ 90-120 นาที โรงไวน์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยตระกูลโลหิตนาวี มีเนื้อที่ 36 เอเคอร์ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 350 เมตร ที่นี่ยังมีเกสต์เฮ้าส์แห่งใหม่ ให้แขกผู้มาเยือนได้เข้าพักค้างคืน และภัตตาคาร โดยในปีนี้ ไวน์จากไร่องุ่น GranMonte ได้คว้ารางวัล 3 เหรียญทอง, 6 เหรียญเงิน และ 5 ตรารับรองคุณภาพ จากเวทีการแข่งขันไวน์ระดับโลก AWC Vienna อีกด้วย มีคุณนิกกี้ โลหิตนาวี ดำรงตำแหน่งนักทำไวน์ให้กับโรงไวน์แห่งนี้ ที่นี่ผลิตเทเบิ้ลไวน์หลากหลายฉลาก องุ่นไวน์แดงหลักๆที่นำมาใช้ผลิต คือ องุ่นสายพันธุ์ชีราส แต่ฉลากที่ผมโปรดปรานที่สุด คือ ไวน์ Viognier
Village Farm Resort and Winery ตั้งอยู่เหนือจากกรุงเทพไป 230 ก.ม. อยู่บนที่ราบสูงโคราช เหนือระดับน้ำทะเล 500 เมตร ในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา มีไร่องุ่นขนาด 80 เอเคอร์ เป็นแหล่งผลิตไวน์ 2 ฉลากดัง คือ Village Farm และ Château des Brumes ไวน์ที่น่าสนใจที่สุดของที่นี่ คือ ไวน์แดง “Le Prestige” เป็นไวน์ที่จัดอยู่ในกลุ่มฉลาก Château des Brumes โดยองุ่นที่นำมาใช้ผลิตไวน์ฉลากดังกล่าวถูกเก็บเกี่ยวในเวลากลางคืน การเก็บเกี่ยวผลผลิตในเวลากลางคืนในประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศร้อนไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากองุ่นจะมีอุณหภูมิลดลงหลังพระอาทิตย์ตกดิน ไวน์ฉลากดังกล่าว ทำจากองุ่นสายพันธุ์ชีราส และ Cabernet Sauvignon นอกจากนี้ ยังมีไวน์ในกลุ่มฉลาก Village Farm ซึ่งประกอบด้วยไวน์ Chenin Blanc และไวน์โรเซ่ ที่ไร่องุ่น Village Farm ยังมีสถานที่อีกมากมายให้คุณได้มาท่องเที่ยว พักผ่อน และค้างคืน แถมยังมีห้องอาหาร Cuisine des Vignerons ให้คุณได้อิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์ยุโรปที่ผสมผสานมนต์เสน่ห์แบบไทยๆอีกด้วย
PB Valley winery คือ โรงไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคแห่งนี้ เริ่มก่อตั้งในปี 1989 อยู่ห่างจากกรุงเทพไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 150 ก.ม. ในจังหวัดนครราชสีมา อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 350-380 เมตร ไร่องุ่นมีเนื้อที่ 800 เอเคอร์ ปลูกสายพันธุ์องุ่น ประกอบด้วย Shiraz, Tempranillo, Chenin Blanc, Dornfelder,Colombard และ Cabernet Sauvignon ที่นี่มีศักยภาพในการผลิต 200,000 ขวด มีห้องอาหารชื่อดังอย่าง The Great Hornbill Grill ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ไวน์ Chenin Blanc Reserve ซึ่งได้รับเหรียญรางวัลจาก The Decanter มีคุณประยุทธ์ เปียงบุญ เป็นหัวหน้านักทำไวน์ให้กับโรงไวน์
[เรียบเรียงจากบทความของ David Swartzentruber]