ช่วงวันหยุดเทศกาลที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศเบลเยียม ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีเบียร์อร่อยๆให้เลือกทานเยอะมากกว่า 100 ยี่ห้อ และมีโรงกลั่นเบียร์มากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ (จำนวนโรงเบียร์มากขนาดนี้ ผมถือว่าเยอะมากสำหรับประเทศที่มีจำนวนประชากรเพียง 11 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่ากรุงเทพจังหวัดเดียวด้วยซ้ำไป) แน่นอนประเทศอื่นๆก็มีเบียร์ดีๆให้เลือกทานเยอะเหมือนกัน แต่ไม่น่าจะมีประเทศไหนที่ผลิตเบียร์ได้มีคุณภาพ และอร่อยมากเท่าเบลเยียมอีกแล้ว ผมเชื่ออย่างนั้น

ดังนั้น การได้กลับไปเบลเยียมในครั้งนี้ ผมจึงไม่พลาดที่จะใช้เวลาจิบเบียร์แบบสุดๆไปเลย

ใครๆก็รู้ว่าเบลเยียมขึ้นชื่อในเรื่องการผลิตเบียร์มากแค่ไหน สำหรับคนภายนอกแล้ว พวกเขาอาจจะรู้จักเบียร์เบลเยียมเพียงไม่กี่ยี่ห้อ ในบทความนี้ ผมจึงถือโอกาสรวบรวมรายชื่อยี่ห้อเบียร์เบลเยียมที่น้อยคนจะรู้จัก แต่รสชาติฟิน และน่าลิ้มลองมากสุดๆ

Oude Geuze Boon

เมื่อพูดถึงเบียร์สไตล์แลมบิก(Lambic) มันคือเบียร์ที่เกิดจากการหมักของยีสต์ธรรมชาติ (Airborne  yeasts) โดยคำว่า “Lambic” มาจากชื่อเมือง Lembeek ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุง Brussels

Oude Geuze Boon เป็นเบียร์ที่มีมีส้มขุ่นๆ รสชาติเปรี้ยวสดชื่น จากรสชาติคุณจะไม่คิดว่ามันเป็นเบียร์ที่บ่มในถังไม้โอ๊กมาแล้วเป็นระยะเวลา 2-3 ปี เป็นเบียร์ที่มีวิธีกลั่นยาก แต่โรงกลั่น Boon ก็สามารถโชว์ฝีมือทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

Westmalle Dubbel

Westmalle ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในเบียร์ประเภท Trappist จากเบลเยียมที่น้อยคนรู้จัก ลองนึกถึงรสชาติเบียร์ Chimay Blue มันมีรสชาติคล้ายกันแต่ซับซ้อนกว่า มีสีน้ำตาลเข้มคล้าย stout แต่มีความสมดุลของรสขมและรสหวาน ปลายรสชาติรู้สึกได้ถึงความดราย

Lousberg

เป็นเบียร์ที่แทรกโน้ตของดอกไม้, ไซตรัส  และน้ำผึ้ง ในเรื่องของสีมีลักษณะเป็นสีบลอนด์มัวๆ รสชาติซับซ้อนหลายชั้น แต่เบาเพราะมีปริมาณแอลกอฮอล์โดยปริมาตรเพียง 8%

Piraat

Piraat เป็นภาษาดัตช์ ซึ่งในภาษาอังกฤษหมายถึง Pirate นั่นเอง แปลว่าโจรสลัด เป็นเบียร์สีอำพัน รสค่อนข้างหวาน สัมผัสได้ถึงดอกฮอพและมอลต์ รสขมอมหวาน มาพร้อมปริมาณแอลกอฮอล์โดยปริมาตรที่ 10.5% เหมาะสำหรับดื่มได้ทุกโอกาส

Omer

คุณอาจเคยรู้จักเบียร์ยี่ห้อ Duvel มาก่อน ซึ่งเป็นเบียร์เบลเยียมสีบลอนด์รสชาติแรงที่มาในขวดทรงดอกทิวลิป จัดว่าเป็นเบียร์รสชาติเยี่ยม แต่ปัจจุบันหาทานยาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องกระบวนการผลิต Omer จึงเป็นเบียร์ที่เข้ามาแทนที่ รสชาติคล้ายกัน แต่ซับซ้อนกว่า กล่าวคือเป็นเบียร์ที่มีรสสดชื่น มีรสของดอกฮอพที่ซับซ้อน แทรกโน้ตผลไม้ และมอลต์ ทิ้งความดรายไว้ที่ปลายสัมผัส

Orval

เป็นเบียร์ที่มีรสดราย และมีกลิ่นหอมมาก สีส้มขุ่นๆ เปรี้ยว หวาน และขมอย่างละนิดอย่างละหน่อย ให้ความรู้สึกสนุกสนานแบบพอดี ไม่เกินเลย โดยรวมแล้วรสชาติสมดุลลงตัว ในความคิดของผม มันถือเป็นเบียร์เบลเยียมประเภท Trappist ที่ยอดเยี่ยมที่สุด

เบียร์เบลเยียมยังมีอีกเยอะในคุณได้ลิ้มลอง ที่ผมเลือกมาแนะนำในบทความนี้ เป็นแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น สำหรับปาร์ตี้ครั้งหน้า ลองมองหาเบียร์เบลเยียมมาจิบดูสิครับ

[เรียบเรียงจากบทความของ Alexander Eeckhout]