[บทความสนับสนุนโดย Bellavista]
อย่างที่ทราบกันดี กรรมวิธีการผลิตสปาร์กลิ้งไวน์ มี 2 กรรมวิธี คือ กรรมวิธีแบบดั้งเดิม หรือ แชมเปนัวร์(champenoise) และอีกกรรมวิธี ที่เรียกว่า ชาร์มาท์(charmat) ความแตกต่างหลักๆระหว่าง 2 กรรมวิธีนี้ คือ วิธีการหมักในครั้งที่ 2 ซึ่งแชมเปนัวร์จะทำการหมักครั้งที่ 2 ในขวด ในขณะที่ชาร์มาท์จะหมักในถังสแตนเลส
สปาร์กลิ้งไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุด จะใช้กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม หรือที่เราเรียกว่า ไวน์แชมเปญนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ยังมีแหล่งผลิตอื่นๆ ที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบดั้งเดิมนี้เช่นกัน
แหล่งผลิตสปาร์กลิ้งไวน์ที่ผ่านการรับรองแห่งแรกของอิตาลีที่ใช้กรรมวิธีผลิตแบบดั้งเดิม คือ Franciacorta ซึ่งอยู่ในเมือง Brescia ในแคว้น Lombardy
Franco Ziliani นักทำไวน์หนุ่มผู้มีความทะเยอทะยาน และทำงานให้กับ Berlucchi ได้ออกตามความฝันของเขา เพื่อจะผลิตสปาร์กลิ้งไวน์คุณภาพเยี่ยม โดยในปี 1961 เขาได้รับอนุญาตให้ผลิตสปาร์กลิ้งไวน์ 3,000 ขวดแรก และออกขายภายใต้ชื่อ Pinot di Franciacorta แต่ความหลงใหลในสปาร์กลิ้งไวน์ของเขาไม่หยุดเพียงเท่านี้ วินเทจต่อมาจึงถูกผลิตขึ้นในปริมาณมากขึ้นถึง 20,000 ขวด และในที่สุดไวน์ยี่ห้อนี้ของเขาก็สามารถผลิตได้มากถึง 100,000 ขวดต่อปี ต่อมาในปี 1967 หลายเขตในแคว้น Lombardy ถูกจัดให้อยู่ภายใต้กฎควบคุมการผลิตไวน์ หรือ DOC ซึ่งในเวลานั้น มีผู้ผลิตสปาร์กลิ้งไวน์จาก Franciacorta จำนวนมากถึง 11 แห่ง แต่สปาร์กลิ้งไวน์ส่วนใหญ่มากกว่า 80% ถูกผลิตโดย Berlucchi
Bellavista คือหนึ่งในจำนวนผู้ผลิตสปาร์กลิ้งไวน์ดังกล่าว…
คำว่า Bellavista ในภาษอิตาเลี่ยน หมายถึง วิวทิวทัศน์อันงดงาม แต่ไม่เพียงชื่อที่ไพเราะ แต่โรงไวน์แห่งนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกด้วย
ย้อนกลับไปในปี 1977 คุณ Vittorio Moretti ได้เปลี่ยนธุรกิจผลิตไวน์ขนาดเล็กของเขา ให้ กลายเป็นบริษัทเต็มรูปแบบ โดยไวน์ฉลากแรกของ Bellavista ถือกำเนิดขึ้นในเขต Franciacorta
ไร่องุ่นผืนแรกของ Bellavista ตั้งอยู่บนเนินเขา Bellavista ซึ่งตั้งชื่อตามตำแหน่งที่ตั้ง ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามของทะเลสาป Lake Iseo และหุบเขา Po Valley ซึ่งทอดยาวจรดเทือกเขาแอลป์
Vittorio Moretti ทุ่มเท และให้ความสนใจต่อไร่องุ่นผืนใหม่ๆของเขาเสมอ ปัจจุบัน ไร่องุ่นของเขากินพื้นที่กว่า 1,100 ไร่(190 เฮกเตอร์) ปลูกองุ่นมากถึง 107 เถา ในหลายตำบลของเขต Franciacorta ซึ่งโดยรวมแล้วมีความศักยภาพในการผลิตไวน์ได้มากถึง 1,300,000 ขวด และด้วยความกว้างใหญ่ของพื้นที่ดังกล่าว จึงทำให้เป็นเรื่องยากที่ใครจะสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตของ Bellavista คือช่วงไหนกันแน่ ในการผลิตไวน์ Franciacorta องุ่นจะถูกกดเพียง 3 ครั้งแรกเท่านั้น เพื่อคั้นเอาน้ำองุ่น(Must)ออกมา หลังจากนั้น จะนำน้ำไปหมักต่อในถังไวน์จำนวน 1,500 ถัง ซึ่งแต่ละถังสามารถบรรจุน้ำองุ่นได้มากถึง 228 ลิตร
นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษ และน่าสนในใจเกี่ยวกับไร่องุ่นแห่งหนึ่งของ Bellavista ซึ่งตั้งอยู่ที่ลาดเขา Monte Orfano อันมีประวัติยาวนานมากว่า 5 ศตวรรษ ที่นี่มีไร่องุ่นโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงสืบทอดธรรมเนียมดั้งเดิมในการผลิตไวน์ Chardonnay อันแสนบริสุทธิ์ โดยใช้ชื่อฉลากว่า Convento Ss.Annunciata ในการผลิตไวน์ฉลากนี้ น้ำองุ่นที่ได้จากการกดทับ จะถูกหมักในขวดขนาดเล็กเป็นเวลาเพียง 12 เดือน หลังจากนั้น จะถูกนำมาบรรจุลงใส่ขวดในฤดูใบไม้ผลิครั้งที่สองหลังจากฤดูเก็บเกี่ยว และถูกบ่มทิ้งไว้ในขวดต่ออีกเป็นระยะเวลา 1 ปี
ปัจจุบัน Bellavista มีชื่อเสียงระดับโลก ในเรื่องการผลิตสปาร์กลิ้งไวน์ที่ใช้กรรมวิธีแบบดั้งเดิม ซึ่งมีคุณภาพทัดเทียมไวน์แชมเปญที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก ลองจิบดู แล้วคุณจะพบว่ามันน่าทึ่งมาก!