โรงไวน์ Paul Jaboulet Aîné
เรื่องราวของ Maison Paul Jaboulet เริ่มต้นขึ้นในปี 1834 เมื่อ Antoine Jaboulet ได้ย้ายมาอาศัยที Tain-l’Hermitage ซึ่งเป็นเขตชุมชนบนเนินเขา Hermitageในหุบเขา Rhône ของประเทศฝรั่งเศส โดยเขาเดินทางมาพร้อมความมุ่งมั่นที่จะผลิตไวน์ที่มีคุณภาพ ซึ่งในแต่ละวัน เขาต้องทำงานอย่างหนักในไร่องุ่น โดยไม่เพียงแต่เลี้ยงดูต้นองุ่น แต่ยังเอาใจใส่ในเรื่องคุณภาพของดินอีกด้วย
ปัจจุบัน Caroline ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของไร่คนใหม่ ยังคงสืบทอดปณิธานในเรื่องคุณภาพดังกล่าว และยังได้ได้นำเทคนิคการเกษตรแบบชีวพลวัตร(biodynamic) มาใช้ โดยที่ดินทุกแปลงยังคงใช้ม้าในการไถพรวนดิน ส่งผลให้ไร่องุ่นแห่งนี้ ผ่านการรับรองมาตรฐานการเกษตรแบบชีวพลวัตรอย่างสมบูรณ์
เมื่อเทคนิคการผลิตแบบดั้งเดิม ผนวกเข้ากับความหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของไวน์ ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ไวน์แดง Syrah 100% “La Chapelle” Hermitage ที่มีคุณภาพระดับตำนาน โดยชื่อไวน์ดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากโบสถ์ Saint-Christophe ที่มีชื่อเสียงบนยอดเนินเขา Hermitage และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของไร่องุ่นได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ “La Chapelle” Hermitage ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ในไวน์ 12 ฉลาก ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 20 และเป็นไวน์ที่ผสมผสานเสน่ห์จากสุดยอดไวน์ท้องถิ่น อย่าง Méal, Bessards และ Rocoules ไว้ได้อย่างลงตัวอีกด้วย
โรงไวน์ Jaboulet เปิดให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศแล้ว และเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ยังได้เปิดพื้นที่ส่วนใหม่ “Vineum” ซึ่งตั้งอยู่ที่ตีนเนินเขา Hermitage โดยสถานที่ดังกล่าว ประกอบไปด้วย ห้องใต้ดิน ไวน์บาร์ และร้านอาหารสไตล์สบายๆ ที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการจิบไวน์ 16 ฉลากในกรรมสิทธิ์ของโรงไวน์แห่งนี้ ในราคาอันแสนย่อยมเยาว์ ในขณะที่ในส่วนของไวน์บาร์ คุณจะได้พบกับสุดยอดไวน์คัดสรร อาทิ โรเซ่ “Parallelle 45” ซึ่งอร่อยล้ำเลิศเมื่อทานคู่กับเมนู charcuterie ที่เสิร์ฟพร้อมแฮมสไตล์ท้องถิ่นของ Ardeche โดยมีเชฟใหญ่ อย่าง Jerome Feix คอยดูแล และปรับปรุงเมนูใหม่ทุกๆเดือน นอกจากนี้ ลูกค้า และผู้มาเยี่ยมเยือน ยังสามารถอิ่มอร่อยไปกับเมนูดังกล่าว พร้อมไวน์เลิศรสของ Paul Jaboulet Ainé เคล้าบรรยากาศสดชื่นใต้ท้องฟ้าสีคราม และร่มเงาของต้นมะกอก ในโซนที่เป็นระเบียงได้อีกด้วย!
สำหรับคอไวน์ที่ชื่นชอบการทานอาหารภายใต้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติแล้วหละก็ Vineum จะมอบความประทับใจให้กับพวกเขาได้อย่างไม่ยาก แต่หากคุณมากับเพื่อน และครอบครัวจำนวนมากกว่า 10 คนขึ้นไป ขอแนะนำให้ใช้บริการทัวร์แบบส่วนตัวที่ทางโรงไวน์จัดไว้ให้ เพราะคุณจะได้เรียนรู้รายละเอียด และข้อมูลเกี่ยวกับโรงไวน์แห่งนี้จากปากของผู้ผลิตเอง ที่สำคัญ Vineum ยังจัดนิทรรศการ และคอนเสิร์ต อยู่เป็นประจำในส่วนของร้านอาหาร พร้อมมอบความสุข และสุนทรียภาพในทุกๆเซนส์ให้กับคุณอีกด้วย!
สนใจลองจิบไวน์ Jaboulet ในไทย? ชมสินค้าได้ที่ ร้านไวน์ออนไลน์ของเรา หรือไปที่โชว์รูมไวน์ Italasia ทุกสาขา!